30 เอกชนเหมราชสนลงทุนหุ่นยนต์มั่นใจเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตชวน ‘อุตตม’ ลงพื้นที่อีอีซี พ.ย.นี้

อุตฯ หุ่นยนต์สดใส 30 เอกชนนิคมฯ เหมราช ไทย-เทศ สนใจลงทุนอีอีซี ตบเท้าหารือ ‘อุตตม’ เชิญลงพื้นที่ 23 พ.ย. กล่อม 400 ราย ตัดสินใจ ครึ่งปีหลังยอดขายที่ดินนิคมฯ เหมราชโตดี มั่นใจทั้งปีขายได้ตามเป้า 1,400 ไร่นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่กระทรวงอุตสาหกรรม นักลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชได้เข้าพบเพื่อหารือถึงการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยสนใจลงทุนคลัสเตอร์อุตสาหกรรมระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ขณะนี้มีนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น กว่า 30 บริษัท สนใจลงทุนนำระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์เข้ามาปรับเปลี่ยนกระบวนการการผลิต ถือเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล โดยนักลงทุนได้เข้ามารับฟังสิทธิประโยชน์จากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และคณะกรรมการนโยบายอีอีซีเพื่อประเมินการลงทุนอีกครั้ง

“ทั้ง 30 รายนี้ไม่ใช่กลุ่มเดียวกับนักลงทุน 8 ราย ที่ยื่นขอลงทุนก่อนหน้าวงเงิน 12,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างยื่นขอบีโอไอ แสดงให้เห็นถึงความสนใจลงทุนของนักลงทุนทั่วไป แต่ยังไม่สามารถประเมินเงินลงทุนได้” นายอุตตม กล่าว และว่า อุตสาหกรรมนี้จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตและการบริหารภาคอุตสาหกรรม รองรับการพัฒนาสู่อุตสาหกรรม 4.0 และเป็นบรรทัดฐานของกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรมในอนาคต นอกจากนี้ จะเกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่ได้จากความรู้ทางเทคโนโลยีใหม่ๆ และเกิดการพัฒนาจนนำประเทศไทยสู่การเป็นเจ้าของเทคโนโลยี มีแบรนด์เป็นของตัวเอง นางสาวจรีพร จารุสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานกรรมการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดับบลิวเอชเอมีลูกค้าที่อยู่ในนิคมฯ เหมราชใน จังหวัดชลบุรี และ จังหวัดระยอง จำนวน 400 ราย จาก 800 ราย ที่สนใจลงทุนปรับเปลี่ยนการผลิตแบบอัตโนมัติตลอดจนการพัฒนาการผลิตหุ่นยนต์รวมมูลค่ากว่าหลายหมื่นล้านบาท คาดว่าจะเห็นความคืบหน้ามากขึ้นในปี 2561 “ดับบลิวเอชเอได้เชิญรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้บริหารอีอีซี และผู้บริหารบีโอไอ ร่วมหารือกับกลุ่มลูกค้า 400 รายในพื้นที่ วันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งภาครัฐตอบรับแล้ว” นางสาวจรีพร กล่าวนางสาวจรีพร กล่าวถึงภาพรวมของบริษัทว่า ปีนี้มั่นใจว่าครึ่งปีหลังจะขายที่ดินเพิ่มมากขึ้นจากครึ่งปีแรกขายได้ 500 ไร่ จากที่ยกระดับนิคมฯ เป็นเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ หุ่นยนต์ และยานยนต์แห่งอนาคต รวมถึงภาพรวมของเศรษฐกิจไทยดีขึ้น ทำให้มีภาคธุรกิจเริ่มกลับมาลงทุนมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทมั่นใจว่ายอดขายที่ดินในปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายที่ 1,400 ไร่

ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน