บิ๊กฉัตรมั่นใจน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลดภายใน 7 วัน สั่งทุกหน่วยงานเร่งผลักดันน้ำลงทะเล

วันที่ 18 ตุลาคม 2560 เวลา 09.30 น. พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางลงพื้นที่ เขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ชัยนาทและ จังหวัดภาคกลาง ซึ่งกรมชลประทานรายงานว่าจากการติดตามสภาพอากาศล่าสุดของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าพายุดีเปรสชั่นขนุนได้อ่อนแรงลงโดยจะไม่ส่งผลกระทบกับประเทศไทยโดยตรง ประกอบกับร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคกลางจะเริ่มสลายตัวไปในคืนนี้

ต่อมา รมว.เกษตรได้เดินทางลงพื้นที่ วัดตะหลุก อ.สรรพยา เพื่อเยี่ยมมอบถุงยังชีพให้ประชาชนที่มารอรับ และเปิดเผยว่า หลังจากนี้หากไม่มีพายุดีเปรสชั่นเข้ามาเติมปริมาณน้ำเหนือเขื่อน คาดว่าจะสามารถผลักดันน้ำระบายลงทะเล และจะทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อนลดลงภายในห้วงเวลา 7 วัน และได้สั่งการให้ทุกส่วนระดมเครื่องมือเครื่องจักร ลงผลักดันน้ำทั้งในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ซึ่งอยู่เหนือเขื่อน และพื้นที่ท้ายเขื่อนตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ลงไป จ.สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา

โดยให้ทุกจังหวัดผันน้ำเข้าพื้นที่แก้มลิงธรรมชาติที่ยังรับน้ำได้ และให้ทำแผนการระบายน้ำลงภาคกลางแบบขั้นบันได ซึ่งทุกจังหวัดจะสอดรับกันเป็นทอด ไม่สร้างผลกระทบหรือภาระให้จังหวัดที่อยู่ปากแม่น้ำ

โดยล่าสุดน้ำจากภาคเหนือไหลเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยา ผ่าน จ.นครสวรรค์ มีปริมาณทรงตัววัดได้ 2,854 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนระดับน้ำเหนือเขื่อนเพิ่มขึ้น 6 ซม.วัดได้ 16.99เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งต่ำกว่าตลิ่งเพียงเล็กน้อย โดยเขื่อนเจ้าพระยายังคงการระบายน้ำไว้ที่ 2,598ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนทรงตัวอยู่ที่ 15.81 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง