ครม.ยืดหนี้ธ.ก.ส. ที่ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้อีก 859 ล้าน

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ดำเนินโครงการพักชำระหนี้ต้นเงินและลดดอกเบี้ยให้เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปี 2559/60 เพิ่มเติมจากมติครม. เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2560 ส่งผลให้เกษตรกรประสงค์เข้าร่วมโครงการที่ไม่เป็นเอ็นพีแอล 260,389 ราย เป็นเอ็นพีแอล 13,951 ราย รวม 274,340 ราย จากมติครม. รอบแรกเกษตรกรเข้าร่วมโครงการไม่เป็นเอ็นพีแอล 212,850 ราย เป็นเอ็นพีแอล 9,150 ราย รวม 222,000 ราย โดยเพิ่มงบประมาณอีก 859.50 ล้านบาท จาก 1,965.50 ล้านบาทต่อปี รวม 2 ปี เป็น 3,931 ล้านบาท เป็น 2,395.25 ล้านบาทต่อปี รวม 2 ปี เป็น 4,790.50 ล้านบาท

ทั้งนี้ การที่ ครม. มีมติเพิ่มเติมความช่วยเหลือ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่มีพื้นที่เกษตรได้รับความเสียหายจากอุทกภัย มีรายได้ลดลงมากกว่า 50% หรือเกษตรกรที่สามารถเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นในส่วนของเกษตรกรที่ไม่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จำนวน 47,539 ราย และเป็นเอ็นพีแอล 4,801 ราย รวม 51,340 ราย จึงต้องการงบประมาณที่รัฐจะชดเชยดอกเบี้ยให้ธ.ก.ส.แทนเกษตรกรในอัตรา 5% รวม 2 ปี เพิ่มขึ้น 859.50 ล้านบาท ซึ่งครม. อนุมัติงบประมาณเพิ่มให้ แต่ส่วนกลุ่มที่เป็นเอ็นพีแอลให้ธ.ก.ส. รับภาระเองทั้งหมด

นายณัฐพร กล่าวว่า ครม. ยังอนุมัติมาตรการเงินการคลังเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยปี 2560 (เพิ่มเติม) ตามที่กระทรวงเสนอ เนื่องจากกระทรวงการคลังเห็นว่าปัจจุบันยังมีสถานการณ์อุทกภัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินมาตรการต่างๆ ช่วยเหลืออยู่ ได้แก่มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เพื่อจูงใจให้บุคคลธรรมดาและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลร่วมกันบริจากคเงินหรือทรัพย์สินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย สามารถนำเงินวงเงินช่วยเหลือหักลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ต.ค. 2560 ครม. ครั้งนี้จึงอนุมัติขยายระยะเวลาออกไปเป็นสิ้นสุด 31 ธ.ค. 2560 ส่วนมาตรตการอื่นๆ ที่ดำเนินการอยู่ปัจจุบันยังไม่มีโครงการที่สิ้นสุดระยะเวลา จึงให้มีผลต่อไป

นอกจากนี้ ครม. ยังอนุมัติมาตรการจ้างงานผู้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ในการปรับปรุงซ่อมแซมที่เกี่ยวกับสาธารณะประโยชน์ในพื้นที่ประสบภัยพิบัติให้หน่วยงานต่างๆ พิจารณาจ้างงานผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามความเหมาะสมโดยประสานขอข้อมูลผู้ลงทะเบียนมายังศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง

 

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์