| เผยแพร่ |
|---|
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 พ.ย. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รองผบช.น., พ.ต.อ.กานต์ ธรรมเกษม รองผบก.น.6, พ.ต.อ.ต่อเกียรติ พรหมบุตร ผกก.สน.สำราญราษฎร์ ฝ่ายสืบสวนสน.สำราญราษฎร์ เจ้าหน้าที่ทหาร และเทศกิจ เข้าตรวจสอบร้านจำหน่ายพลุ ประทัด และดอกไม้เพลิง ย่านภูเขาทอง แหล่งจำหน่ายพลุและประทัดยอดนิยมในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อเตรียมความพร้อมในช่วงลอยกระทงปี 2560 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 พ.ย.นี้
จุดแรก เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบตึกแถว 4 ชั้น 2 คูหา ประกอบกิจการจำหน่ายดอกไม้เพลิง ชื่อ ร้านคุณแอ๊ด เลขที่ 65 ถ.บำรุงเมือง แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบ กทม. เจ้าของร้านชื่อนายสิทธิชัย ทัศนศรี จากการตรวจสอบพบพลุ ดอกไม้เพลิง และประทัด วางเรียงอยู่บนชั้นวางจำหน่ายจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังพบว่าร้านดังกล่าวมีใบอนุญาตผิดสถานที่ เนื่องจากเป็นใบอนุญาตประกอบกิจการจำหน่ายพลุที่อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
จุดที่ 2 เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านไม้ชั้นเดียว ลักลอบจำหน่ายพลุ ดอกไม้เพลิง ชื่อร้านลุงชาญดอกไม้ไฟ เลขที่ 75 ถ.มหาชัย แขวงบวร เขตพระนคร กทม. เจ้าของชื่อนางพะเยาว์ อ้นสืบสาย อายุ 65 ปี ตรวจสอบพบพลุหลากหลายชนิดวางเรียงรางอยู่บนชั้นในบ้าน และไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการจำหน่ายพลุ ดอกไม้ไฟ เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาจำหน่ายพลุ ดอกไม้ไฟ โดยไม่มีใบอนุญาต ผิดกฎหมาย พร้อมยึดของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสน.สำราญราษฎร์ ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า จากนโยบายของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศ กวาดล้างจับกุมแหล่งจำหน่ายพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง จากนั้นจะลงพื้นที่ตรวจสอบแหล่งจำหน่ายที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ บริเวณภูเขาทอง และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุม เพื่อปิดตำนานร้านจำหน่ายพลุ ดอกไม้เพลิง ทั่วทั้งประเทศ
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวต่อว่า ส่วนประชาชนที่เล่นพลุ ดอกไม้เพลิง ตำรวจจะปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนร้านใดจำหน่ายโคมลอย รวมทั้งผู้เล่น ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย หากมีร้านใดฝ่าฝืน เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบจะลงพื้นที่ตรวจสอบว่ามีใบอนุญาตการจัดจำหน่ายหรือไม่ สำหรับอัตราโทษของผู้จำหน่าย ปรับ 1,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ส่วนประชาชนที่ฝ่าฝืนจุดและปล่อยพลุ ดอกไม้เพลิง หรือโคมลอย จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ
รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า สำหรับมาตราการดูแลความปลอดภัยประชาชนช่วงลอยกระทง ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อป้องกันมิจฉาชีพ รวมทั้งประสานงานเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสถานที่ลอยกระทง อีกทั้งยังตรวจโป๊ะเรือแต่ละจุดโดยจะต้องมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ 2 คน และต้องมีชูชีพอย่างน้อย 4 อัน เพื่อป้องกันเหตุการณ์สูญเสียและเพื่อช่วยเหลือประชาชนได้ทันเวลา
ที่มา : ข่าวสดออนไลน์
