เผยแพร่ |
---|
ช่วงนี้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ได้นำสต๊อกที่สร้างเสร็จมาจัดโปรโมชั่นลดหรือแถมเพื่อปิดโครงการ ขณะที่ธนาคารก็ออกสินเชื่อบ้านประเภทต่างๆ มาเสริม จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการหาซื้อคอนโดมิเนียม แต่ก็ควรเช็กความพร้อมของตัวเองก่อน มันนี่ทิปมีข้อมูลจากธนาคารไทยพาณิชย์มาฝากกันค่ะพร้อมแรก ต้องประเมินตัวเองว่าคิดว่าจะทำงานที่เดิมหรือในรัศมี 10 กิโลเมตร ต่อไปอีก 5-10 ปีขึ้นไปหรือไม่ หากใช่ก็ควรจะลงหลักปักฐานซื้อคอนโดมิเนียมไว้เป็นสินทรัพย์ได้แล้ว
พร้อมที่สอง ควรมีเงินเก็บคิดเป็น 20% ของราคาคอนโดมิเนียม เพราะตอนขอสินเชื่อจากธนาคารจะไม่ได้อนุมัติสินเชื่อ 100% ของราคาคอนโดมิเนียม จึงต้องมีเงินส่วนนี้มาเป็นเงินดาวน์หรือนำมาโปะ ทั้งนี้ ยังใช้จ่ายค่าธรรมเนียมต่างๆ ของกรมที่ดิน ค่าปรับปรุงซ่อมแซม หรือเก็บเป็นเงินสำรองไว้บางส่วนกันเดือนไหนที่ไม่มีเงินเข้าก็จะได้มีเงินผ่อนได้ต่อเนื่องไม่ผิดนัดพร้อมที่สาม ทำเลของคอนโดมิเนียมเป็นเรื่องสำคัญ โดยอาจจะพิจารณาจากหลักดังต่อไปนี้ ได้แก่ 1. ใกล้สถานีรถไฟฟ้าที่พร้อมใช้ ในรัศมี 1 กิโลเมตร หรือไม่ 2. ใกล้ตลาด แหล่งซื้อของกินของใช้ที่หลากหลายหรือไม่ 3. ค่าเช่าของอสังหาริมทรัพย์บริเวณนั้นราคาดีและปรับขึ้นหรือไม่ 4. มีแหล่งที่ทำงานหลากหลายแห่งหรือไม่ 5. เป็นแหล่งชุมชน ที่เริ่มมีการลงทุนเปิดธุรกิจในย่านนั้นหรือไม่ หากได้ครบหลายข้อจะดีมากพร้อมที่สี่ ค่าผ่อนงวดคอนโดมิเนียมใกล้เคียงกับค่าเช่าที่เช่าอยู่ไหม โดยทั่วไปแล้วค่าผ่อนคอนโดมิเนียมจะอยู่ที่ประมาณ 0.7% ต่อเดือน ของเงินกู้คอนโดฯ ควรคำนวณว่า หากนำเงินเก็บที่มีไปหักลบกับราคาคอนโดมิเนียมแล้ว จะกู้เงินได้เท่าไร เพื่อให้ค่าผ่อนงวดแต่ละเดือนใกล้เคียงกับค่าเช่าในปัจจุบัน หรือหากผ่อนให้เท่ากับหรือน้อยกว่าค่าเช่าได้ ถือว่าการผ่อนคอนโดมิเนียมเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้ามีเงินเก็บไม่พอ และคำนวณแล้วค่าผ่อนงวดมากกว่าค่าเช่ามากเกินไป ก็ควรจะเช่าไปก่อนและหาคอนโดมิเนียมที่ราคาและขนาดเหมาะสมที่จะผ่อนงวดได้สอดคล้องกับรายได้ที่สำคัญเมื่อกู้ได้แล้วต้องมีวินัยในการชำระค่างวดด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก กระปุกหมู