กกพ.ส่งซิกตรึงค่าไฟถึงปีหน้า 9 พ.ย. เคาะงวดมกรา-เมษา’61 ชงยกเครื่องพีดีพี 20 ปีล้าสมัย

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน มีการเสวนา “การปฏิรูปพลังงาน ในห้วงปฏิรูปประเทศ” จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ตึกช้าง

นายมนูญ ศิริวรรณ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน กล่าวว่า กรรมการปฏิรูปด้านพลังงาน ซึ่งอยู่ใน 11 ด้านของกรรมการปฏิรูปประเทศ ได้จัดทำข้อเสนอด้านการปฏิรูปเสร็จแล้ว เตรียมเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานปลายเดือนธันวาคมนี้ คาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อบังคับใช้ช่วงเดือนเมษายน 2561 โดยประเด็นที่เสนอให้เปลี่ยนแปลง อาทิ การปรับปรุงแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าประเทศ 20 ปี (พีดีพี 2015) ที่มีการใช้มา 2 ปีแล้ว แต่เห็นได้ว่าค่อนข้างล้าสมัย รวมถึงจะเสนอลดภาวะการทำงานซ้ำซ้อนของหน่วยงานพลังงาน ซึ่งกระทรวงพลังงานน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กรมากที่สุด โดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน น่าจะเป็นหน่วยงานที่ได้รับผลกระทบ และ กกพ.จะเป็นหน่วยงานหนึ่งที่จะถูกเสนอให้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างด้วย นอกจากนี้ จะเสนอจัดตั้งศูนย์ข้อมูลพลังงานแห่งชาติ เพื่อแก้ปัญหาภาคประชาชนบางส่วนจัดทำข้อมูลโต้แย้งรัฐ

นายพิชัย ถิ่นสันติสุข ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เห็นด้วยกับคณะกรรมการปฏิรูปพลังงานที่จะเสนอให้ กกพ.แยกงานกำกับออกจากงานปฏิบัติ และอยากให้กำหนดบทบาทของประชาชนจากการมีส่วนร่วมเป็นการมีส่วนได้เสีย เพื่อลดการต่อต้านจากภาคประชาชน

นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการ กกพ. กล่าวว่า กกพ.จะนำข้อเสนอต่างๆ จัดทำยุทธศาสตร์กำกับกิจการพลังงานฉบับที่ 3 ที่ประกาศใช้ช่วงต้นปี 2561 มาพิจารณา ซึ่งบางเรื่องมีการดำเนินการอยู่แล้ว อาทิ การรับฟังความเห็นหากเป็นประเด็นใหญ่จะรับฟังด้วยการเปิดเวทีอยู่แล้ว

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการ กกพ.กล่าวถึงแนวโน้มค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดเดือนมกราคม-เมษายน 2561 ว่า น่าจะตรึงไว้ระดับปัจจุบัน เพราะสถานการณ์ค่าเงินดีขึ้น โดยจะพิจารณาวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ ขณะที่งวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2560 เพิ่มขึ้น 8.87 สตางค์ ต่อหน่วย ทำให้ค่าเอฟที อยู่ที่ -15.90 สตางค์ ต่อหน่วย

ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน