เผยแพร่ |
---|
สาเหตุสำคัญของโรคหัวใจมาจากโรควิถีชีวิตและพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ถูกต้อง ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ความอ้วน และสูบบุหรี่ ทำให้หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจแข็งตัว หรือตีบตัน ดังนั้น ผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป จึงควรตรวจสุขภาพประจำทุกปี เพื่อติดตามประเมินภาวะสุขภาพ ซึ่งหากพบมีผิดปกติจะได้รับการส่งต่อเพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด หรือรับคำแนะนำในการปฏิบัติตนเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่อไป
นพ. โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ข้อมูลว่า ในการลดความเสี่ยงโรคหัวใจและโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่เป็นปัจจัยหลักของภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ทำได้โดยรับประทานอาหารสุขภาพ เช่น ผัก ผลไม้ พืชเมล็ดถั่ว ปลารสไม่หวานไม่มันไม่เค็ม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น เดินเร็วประมาณ 30 นาทีอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม ไม่สูบบุหรี่ ผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง รักษาอย่างต่อเนื่อง และปฏิบัติตนตามคำแนะนำแพทย์
สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ แนะนำให้ออกกำลังกายระดับปานกลาง เช่น เต้นแอโรบิก เดินเร็ว ขี่จักรยาน วิ่งเหยาะๆ และว่ายน้ำ ที่สำคัญคือ ต้องปรึกษาแพทย์ผู้รักษาก่อน และออกกำลังแต่พอเหมาะ เริ่มเบาๆ ค่อยเป็นค่อยไป หยุดพักเมื่อเริ่มเหนื่อยหรือแน่นหน้าอก หลังจากที่เริ่มเคยชินก็ค่อยๆ เพิ่มเวลาของการออกกำลังกายจนสามารถทําได้อย่างต่อเนื่องนานอย่างน้อย 15 นาทีขึ้นไป ที่สำคัญต้องไม่ลืมเตรียมร่างกาย (Warming up and down) ก่อนและหลังการออกกำลังกายทุกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน