เจ้าของสวนยางตรังตัดใจโค่นทิ้ง

รายงานข่าวจากจังหวัดตรัง หลังจากเกษตรกรชาวสวนยางพาราประสบปัญหาราคายางตกต่ำทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักหลายแปลง เจ้าของสวนตัดสินใจโค่นทิ้งก่อนหมดอายุกรีด หันไปปลูกปาล์มน้ำมันแทน และทำการเกษตรประเภทอื่นแทน ขณะเดียวกันหลายแปลงลูกจ้างกรีดยางหนีหาย เจ้าของสวนหาคนกรีดใหม่ไม่ได้ ต้องปล่อยทิ้งร้าง

นายชอบ ประจงใจ เจ้าของสวนยางในพื้นที่ตำบลทุ่งต่อ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง เนื้อที่กว่า 20 ไร่ กล่าวว่า ขณะนี้พบมีสวนยางพาราหลายแปลงถูกปล่อยทิ้งร้างไม่มีคนกรีดเพราะประสบปัญหาเรื่องคนงานมีรายได้จากการรับจ้างกรีดยางในแต่ละวันไม่พอเลี้ยงครอบครัว จึงหยุดกรีด แล้วหันไปหาอาชีพรับจ้างอย่างอื่นทำแทน ในส่วนของตนเองมีทั้งหมด 3 แปลง ทั้งกรีดเองบ้าง ให้ลูกจ้างกรีดบ้าง ส่วนที่ลูกจ้างกรีดเนื้อที่กว่า 20 ไร่ ต้องทำร้างหาลูกจ้างใหม่ไม่ได้ และทุกครั้งที่มีปัญหาราคายางตกต่ำ ก็จะเกิดปัญหาลูกจ้างทิ้งสวนยางไม่มีคนกรีดทุกครั้ง

“ส่วนที่ผมกรีดเองก็จะกรีดบ้างหยุดบ้าง เพราะราคายางตกต่ำ กรีดก็ได้เงินไม่คุ้มค่าเหนื่อย จึงไม่มีกำลังใจจะกรีด และหันไปทำอย่างอื่นควบคู่ไปด้วย และในพื้นที่ตำบลทุ่งต่อ อำเภอห้วยยอด ก็มีหลายแปลงที่ถูกทิ้งร้าง อยากให้ผู้บริหารการยางแห่งประเทศไทยและรัฐบาลเร่งหามาตรการแก้ไขปัญหา เพราะหากปัญหายังอยู่ลักษณะนี้เกษตรกรจะอยู่ต่อไปไม่ได้ เพราะจะมีหหนี้สินเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ราคายางพาราที่เกษตรกรอยู่ได้จะต้องประมาณ กิโลกรัมละ 70 บาท เพราะต้นทุนการผลิตยางพาราอยู่ที่ประมาณ กิโลกรัมละ 66 บาท” นายชอบ กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก มติชนรายววัน