ที่มา | เทคโนโลยีเกษตร |
---|---|
ผู้เขียน | จิรวรรณ โรจนพรทิพย์ |
เผยแพร่ |
“อาจารย์ศิลป์ชัย ตระกูลทิพย์ ประธานชมรมผู้ปลูกมะม่วงอำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ได้บอกเล่าเทคนิค “การอุ้มบุญมะม่วง” หรือที่หลายคนเรียกว่า “การฝากท้องมะม่วง” ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่เกษตรกรนิยมนำมาใช้ เมื่อต้นมะม่วงที่ปลูก เช่น มะม่วงพันธุ์เขียวเสวย หรือ เพชรบ้านลาด ไม่ให้ผลผลิต หรือให้ผลผลิตน้อยไม้คุ้มค่ากับการลงทุน
เกษตรกร นิยมนำเทคนิคอุ้มบุญมาใช้เพื่อเพิ่มผลผลิต ในช่วงต้นหรือกลางฤดูฝน โดยไม่เพิ่มพื้นที่ปลูกและใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนก็ให้ผลผลิตแล้ว ส่วนใหญ่นิยมใช้ มะม่วงพันธุ์เขียวเสวย หรือ เพชรบ้านลาด เป็นต้น แม่พันธุ์ และลูก (ยอดที่มาฝาก) ได้แก่ น้ำดอกไม้สีทอง น้ำดอกไม้เบอร์ 4 หรืออกร่องพิกุลทอง เป็นต้น
เทคนิคอุ้มบุญทำได้ง่าย เริ่มจากคัดเลือกต้นแม่ที่มีสภาพสมบูรณ์ ใบแก่ เขียว เข้ม ลูก (ยอด) ที่นำมาฝากท้อง ต้องเป็นพันธุ์ดี มีสภาพแข็งแรงสมบูรณ์พร้อมที่จะแตกใบอ่อนภายใน 5-7 วัน ที่สำคัญเป็นสายพันธุ์มะม่วงที่ตลาดต้องการ หลังจากคัดเลือกต้นแม่และกิ่งพันธุ์ที่ต้องการได้แล้ว จะกำหนดบริเวณฝากท้องให้สูงจากพื้นดินประมาณ 1 เมตร อยู่ห่างจากง่ามของกิ่ง เพื่อใช้ง่ามสำหรับให้ช่อพาด เพื่อป้องกันกิ่งฉีกหรือปริ
เมื่อคัดเลือกต้นแม่และลูกได้ตามที่ต้องการได้แล้ว เกษตรกรจะนำกรรไกรมาตัดยอดที่สมบูรณ์ ที่ขนาดความยาว 3 นิ้ว ตัดใบทิ้งและใช้ใบมีดเฉือนโคนยอดให้เป็นรูปลิ่ม ความยาวจากปลายยอดถึงโคนยอด ประมาณ 1.5 นิ้ว และใช้มีดกรีดเปลือกของต้นแม่เป็นรูปตัว T ให้มีความกว้างประมาณ ครึ่งนิ้ว ยาว 1 – 1.5 นิ้ว ลอกเปลือกมะม่วงจากบนลงล่าง พยายามอย่าให้เปลือกขาด นำยอดมะม่วงพันธุ์ดีที่ได้ทำเป็นรูปลิ่มแล้วเสียบเข้าไปบริเวณแผลตัว T และใช้พลาสติกใสที่เตรียมไว้พันพอแน่นจากล่างขึ้นบน
หลังจากฝากท้องไปได้ 5 – 10 วัน ยอดจะเริ่มโผล่ ปล่อยให้ยอดเติบโต จนมีความยาวครึ่งนิ้ว ให้เจาะรูด้านบนเพื่อระบายอากาศ คอยดูแลโดยการฉีดพ่นยาฆ่าแมลง ป้องกันหนอน และเพลี้ยไฟไม่ให้เข้ามารบกวน ภายในเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน ก็สามารถดึงดอกได้ ข้อดีของการอุ้มบุญคือ ดูแลง่ายให้ผลผลิตที่คุ้มค่ากับการลงทุน หากใครมีข้อสงสัยประการใด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับ อาจารย์ศิลป์ชัย ตระกูลทิพย์ ได้ที่เบอร์โทร. 08-1886-9656