น้ำป่าเทือกเขาบรรทัด ทะลักเข้าท่วมเขตเทศบาลย่านตาขาว ผู้ว่าฯตรัง เผยสังเวยแล้ว 3 ศพ

น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด ทะลักเข้าท่วมเขตย่านการค้าและชุมชนตลาดเทศบาลย่านตาขาว

น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด ทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ย่านการค้า และชุมชน เทศบาลย่านตาขาว โดยน้ำล้นเอ่อขึ้นจากแม่น้ำปะเหลียน ผู้ว่าตรังเร่งเข้าสำรวจความเสียหาย เผยส่วนหนึ่งมาจากการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำผิดพลาด ไม่มีความรู้เรื่องน้ำ ขณะที่ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตและผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้แล้ว 3 ราย

ชาวบ้านชุมชนริมแม่น้ำคลองปะเหลียน ต่างได้ช่วยกันอพยพสิ่งของขึ้นสู่ที่สูง ขณะที่เทศบาลตำบลย่านตาขาว โดยนายวุฒิชัย สุนทรนนท์ นายกเทศมนตรีตำบลย่านตาขาว ได้นำสิ่งของอุปโภค บริโภค น้ำดื่ม ไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านในชุมชนริมคลองแม่น้ำปะเหลียน โดยเฉพาะผู้สูงอายุบางคน ยอมเฝ้าทรัพย์สินอยู่ในบ้าน ไม่ยอมอพยพไปอยู่ในสถานที่เทศบาจัดให้เป็นที่อาศัยชั่วคราว แต่ไม่สามารถปรุงอาอาหารได้ จึงต้องนำข้าวกล่อง น้ำดื่มใปแจกจ่ายแก่ชาวบ้าน รวมทั้งอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงที่กำลังอดอาหารในช่วงนี้ด้วย ทั้งนี้ล่าสุดปริมาณน้ำริมแม่น้ำคลองปะเหลียนมีน้ำสูงประมาณ 60 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร 20 เซนติเมตร และบริเวณยานการค้าตลาดเทศบาลตำบลย่านตาขาว มีน้ำท่วมสูงประมาณ 40-60 เซนติเมตร

โดยนายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ซึ่งหลังลงพื้นที่ตรวจสภาพน้ำท่วมขังและเยี่ยมประชาชนในเขตพื้นที่ อำเภอย่านตาขาว ได้กล่าวว่า วิกฤตน้ำท่วมหนักครั้งนี้เกิดจากน้ำจากจุดต่าง ๆ จากน้ำฝนที่ตกหนักเทือกเขาบรรทัด ประตูระบายน้ำปะเหลียน เขื่อนท่างิ้ว และน้ำจากนครศรีธรรมราช ทุ่งสง บางขัน ซึ่งไม่มีอ่างเก็บน้ำ ทำให้มวลน้ำทั้งหมดไหลลงสู่แม่น้ำตรัง ทำให้บางพื้นที่ที่มีการแก้ไข มีคลอง มีประตูน้ำก็ทานไม่ไหวเพราะมีมวลน้ำจำนวนมาก และมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุและความประมาทเบื้องต้น 2 ราย ทั้งที่ย้ำเตือนให้ระมัดระวัง

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ยังกล่าวว่า จากการลงสำรวจพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตน้ำท่วมหนักในรอบนี้ เกิดจากพื้นที่จังหวัดตรังฝนตกหนักน้ำจากเทือกเขาบรรทัดทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นประตูระบายน้ำปะเหลียน เขื่อนท่างิ้ว ปริมาณน้ำล้นมาก ทางชลประทานจำเป็นต้องปล่อยน้ำ ซึ่งไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา และน้ำจากนครศรีธรรมราช ทุ่งสง บางขันไม่มีอ่างเก็บน้ำ ที่ตั้งใจจะสร้าง สร้างไม่เสร็จ หรือสร้างไม่ได้ น้ำทั้งหมดก็ไหลลงสู่แม่น้ำตรังและชายแดนรัษฎา คลองปาง ซึ่งทาง อ.รัษฎา รับน้ำอย่างมากและเชี่ยวมาปะทะกับน้ำของท่างิ้ว ทำให้รัษฎาและห้วยยอดครั้งนี้จะหนักมากรวมทั้งปะเหลียนด้วย จากปะเหลียนมวลน้ำที่ปล่อยจากประตูระบายน้ำคลองปะเหลียนรวมทั้งมาจากคลองลำพิกุลซึ่งมาจากนาโยง รวมกันทำให้มวลน้ำที่ย่านตาขาวที่คิดว่าน้ำจะไม่ท่วมอีกแล้ว เพราะมีการแก้ไข มีคลองบางด้วนทำประตูน้ำเพิ่มเติมไปแล้ว แต่ปริมาณมวลน้ำมหาศาลเหลือเกิน จึงทำให้เกิดปริมาณน้ำที่ล้นคลองปะเหลียน อ.ย่านตาขาว

ซึ่งประเด็นก็คือ ในชุมชนยังต้องการที่จะขอที่คืนให้กับหลวงเพื่อที่จะขยายทางน้ำ มันติดอยู่เหมือนกรวย พอรีดน้ำ น้ำก็ไหลไม่ทันก็ทำให้ล้นด้านข้างออกมา และมีน้ำทะเลหนุนในช่วงน้ำขึ้น แต่โชคดีตรงที่ถึงน้ำจะขึ้น แต่ระดับน้ำเวลาลง ลงมาก ช่วงน้ำตาย 3-4-5 ค่ำไม่โชคร้ายเกินไปนัก และสำหรับอำเภอเมืองพื้นที่เหมือนแอ่งกระทะที่รับน้ำแม่น้ำตรังเต็มๆ น้ำจากนาโยง น้ำจากคลองนางน้อย ลงมาทำให้ ต.บางรัก ต.หนองตรุด ต.นาตาล่วง ต.นาท่ามเหนือ ต.นาท่ามใต้ ต.นาโต๊ะหมิง เป็นแอ่งกระทะรับ เป็นขนมครกรับน้ำลงไปเรื่อย ๆ ในขณะนี้ ซึ่งหวั่นกลัวพนังกั้นน้ำอยู่ในขณะนี้ ว่าจะชำรุดอีกหรือไม่ แต่ก็พยายามเต็มที่ที่จะดูแล และการอพยพประชาชนได้ประสานการทำงานกันอย่างทั่วถึง เพราะได้เตรียมการตั้งแต่เนิ่น ทั้งเรื่องอาหาร เต็นท์อพยพที่จะให้ประชาชนมาอาศัยอยู่

แต่ปัญหาที่เป็นกังวลอยู่ คือประชาชนไม่ดูแลญาติพี่น้อง ยังมีคนที่เสียชีวิตไม่ว่าจากอุบัติเหตุ หรือจากการประมาทยังมีอยู่อีก เบื้องต้นทราบว่ามี 2 ศพ ซึ่งอีกศพตนจะเข้าไปดูว่าจะใช่หรือไม่เพราะอยู่หลังบ้านที่ อ.ห้วยยอด ซึ่งอยากจะขอให้คนที่อยู่ต่อระมัดระวังให้เพิ่มขึ้น ซึ่งก็เตือนแล้วไม่ใช่ไม่เตือน แต่มันเป็นเรื่องของอุบัติเหตุต้องเข้าใจ แต่ไม่ใช่จะประมาทนักหนาแต่มันก็เป็นสิ่งที่บางทีคาดไม่ถึง

 

ที่มา : มติชนออนไลน์