รมต.ใหม่ลุยแก้ราคาข้าว “ลักษณ์” ช่วยลดต้นทุนการผลิต

“สนธิรัตน์” รมว.พาณิชย์คนใหม่ ลงพื้นที่ร้อยเอ็ด ตรวจติดตามมาตรการช่วยเหลือผู้ปลูกข้าว ส่วน 2 รมช.เกษตรฯ ใหม่ลุยงานเต็มที่ “ลักษณ์” ดันชาวนาลดต้นทุนการผลิต สร้างอำนาจต่อรอง ชี้ราคาข้าวปีนี้เกษตรกรพอใจ “อาจารย์ยักษ์” ยัน 3 เดือนเห็นผลงาน

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ (พณ.) เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2560/61 ด้านการตลาด เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา ได้แก่ การจ่ายเงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่เกษตรกรทุกรายไร่ละ 1,200 บาท ไม่เกิน 12,000 บาท โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ตันละ 1,500 บาท โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวโดยสถาบันเกษตรกร และโครงการชดเชยดอกเบี้ย 3% ให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อก

ในวันที่ 2 ธันวาคม นี้ กำหนดลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ตรวจเยี่ยมติดตามมาตรการช่วยเหลือผู้ปลูกข้าว พร้อมติดตามสถานการณ์การซื้อขาย

ข้าวเปลือก ปีการผลิต 2560/61 และรับฟังปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะในการดำเนินการมาตรการของรัฐบาล รวมทั้งติดตามโครงการ

สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าว ที่สหกรณ์เกษตรวิสัย และโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2560/61 ที่ ตำบลดงครั่งใหญ่ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด

นายลักษณ์ วจนานวัช รมช.เกษตรและสหกรณ์คนใหม่ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรฯ รับผิดชอบงานด้านอำนวยการ และการผลิตทั้งหมด คือ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กรมปศุสัตว์ กรมประมง กรมการข้าว ฯลฯ ที่สำคัญคือ ราคาที่เกษตรกรได้รับจะต้องไม่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต แนวทางการจัดการจะให้เกษตรกรคิดร่วมกันสร้างความเข้มแข็งบริหารจัดการด้วยตนเอง เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ได้เบื้องต้น 20% เป็น 30% และ 50% ซึ่งจะเพิ่มอำนาจการต่อรองของเกษตรกรได้มากขึ้น

ขณะนี้ราคาอยู่ระดับที่เกษตรกรพอใจมากไม่ได้ตกต่ำอย่างที่คิด ข้าวหอมมะลิ 13,000-14,000 บาท ต่อตันข้าวเปลือก ข้าวขาว 8,000-9,000 บาท สำหรับข้าวเหนียวต้องจับตา หลังช่วงต้นฤดูตกต่ำเหลือ 5,000-6,000 บาท เนื่องจากเกษตรกรใช้พันธุ์คุณภาพไม่ดี

นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รมช.เกษตรและสหกรณ์คนใหม่ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานด้านโครงสร้างพื้นฐาน กรมชลประทาน กรมฝนหลวง กรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กรมหม่อนไหม และกรมส่งเสริมสหกรณ์งานเร่งด่วนที่จะดำเนินการให้เห็นผลภายใน 3 เดือนนี้ คือ การแก้ไขปัญหาภัยแล้งที่ไทยกำลังเข้าสู่ภาวะนี้ แม้ว่าปริมาณน้ำในเขื่อนจะมีมาก แต่การบริหารจัดการต้องดี

ขอบคุณข้อมูลจากข่าวสด