โฟร์โมสต์ปูพรมส่งเสริมเกษตรกรหลังผลผลิตนมวูบ

สภาวะอากาศผันผวนหนัก ฝนตกชุกสารพัดโรครุม ทั้งโรคปากเท้าเปื่อย เต้านมอักเสบและปอดบวมเฉียบพลันกระหน่ำโคนมตาย 10-20% ส่งผลผลิตนมดิบ 3 ไตรมาสแรกปีนี้วูบ 17% โฟร์โมสต์ปรับแผนเร่งส่งเสริมเกษตรกรหน้าใหม่-เก่าผลิตเพิ่มในปีหน้า รับมือผลผลิตทรงตัว จับมือ อ.ส.ค.-มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ผลิตหลักสูตรโคนมแห่งชาติแก้วิกฤตทั้งระยะสั้น-ยาว
ดร. โอฬาร โชควิวัฒนา
ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมโฟร์โมสต์ เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศของไทยในปีนี้ ทั้งภัยแล้งช่วงต้นปี ส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงโคนมในประเทศ โดยพืชอาหารสัตว์ได้รับความเสียหาย ในขณะที่เกิดฝนตกชุกตั้งแต่กลางปีเป็นต้นมา ทำให้แม่โคนมเป็นโรคเต้านมอักเสบ ส่งผลให้น้ำนมโคที่รีดได้จำนวนหนึ่งไม่สามารถนำมาบริโภคได้ ปัญหาการระบาดของโรคปากเท้าเปื่อยอย่างต่อเนื่อง เพราะเกษตรกรไม่ยอมฉีดวัคซีนป้องกันพร้อมกันในระยะ 5-7 วัน เพราะกลัวแม่โคแท้งลูก และโรคปอดบวมเฉียบพลันในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ที่ทำให้แม่โคล้มตายกว่า 10-20% อันเนื่องมาจากความชื้นในอากาศสูง จึงทำให้เกษตรกรโคนมต้องคัดทิ้งแม่โคที่อยู่ในช่วงให้ผลผลิตออกเป็นจำนวนมาก

ทั้งหมดนี้ทำให้ปริมาณนมดิบของไทยทั้งประเทศใน 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ลดลงถึง 27 ล้านกิโลกรัมหรือ 17% จากปกติที่ผลิตได้วันละ 3,300 ตัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในส่วนของโฟร์โมสต์ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว จากที่รับซื้ออยู่ 353 ตัน ต่อวัน ในปี 2559 ก็ลดลงเช่นกัน ส่งผลให้สต๊อกนมยูเอชทีของโฟร์โมสต์ลดลงตามไปด้วย
“คาดว่าภายในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2560 นี้ สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบไปมากกว่านี้ในปี 2561 โฟร์โมสต์จึงมีแผนส่งเสริมเกษตรกรทั้งรายเก่าที่มีอยู่ 4,000 ราย รวมทั้งส่งเสริมเกษตรกรรายใหม่ในภาคใต้ ภาคกลางและภาคอีสานเพิ่มเติมอีก เพื่อรองรับยอดขายต่อปีที่จะต้องเพิ่มขึ้นปีละ 2-5% และโฟร์โมสต์ใช้น้ำนมดิบในประเทศมาผลิตนมพร้อมดื่ม 100% นอกจากนี้ยังร่วมกับองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผลิตหลักสูตรโคนมแห่งชาติเพื่ออบรมผู้ที่ต้องการเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น เพื่อแก้วิกฤตทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งปีนี้บริษัทอบรมเกษตรกรในเครือข่ายไปแล้ว 3,000 ราย” ดร. โอฬาร กล่าว
นายสมสวัสดิ์ ตันตระกูล ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาฟาร์มโคนม บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การบริโภคนมในประเทศไทย ปัจจุบันยังมีอัตราที่เติบโตขึ้นทุกปี แต่ยังอยู่ในอัตราที่ต่ำมากเพียง 18 กิโลกรัม ต่อคน ต่อปี เท่านั้น น้อยกว่าญี่ปุ่นที่มีการบริโภคนมที่ 100 กิโลกรัม ต่อคนต่อปี หรือสิงคโปร์คนละ 60-70 ลิตร ต่อปี ซึ่งไทยมีแผนจะส่งเสริมให้มีการบริโภคมากขึ้นเป็น 25 กิโลกรัม ต่อคน ต่อปี ในอีก 5 ปีข้างหน้า แต่เป้าหมายของโฟร์โมสต์คือ ต้องทำให้ได้ใน 3 ปีข้างหน้า โดยปัจจุบันโฟร์โมสต์ยังมียอดขายนมยูเอชทีของตลาดเชิงพาณิชย์เป็นอันดับ 1 ของไทย ในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้น 2-5% จากปีที่ผ่านมามียอดขาย 13,500 ล้านบาท
“นมดิบที่ลดลงกว่า 27 ล้านกิโลกรัม นั้น มีมูลค่ากว่า 472 ล้านบาท หรือกว่า 52 ล้านบาท โดยเฉลี่ยต่อเดือน ซึ่งส่งผลให้รายได้ของเกษตรกรหายไปด้วย ขณะที่การสต๊อกนมรสจืดยูเอชทีของบริษัทลดลงเหลือวันต่อวัน ดีแต่ว่ามีสต๊อกจากการรับซื้อนมโรงเรียนช่วงปิดเทอมเข้ามาเสริม ทำให้สต๊อกคลายตัวบ้าง ส่วนในปี 2561 คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำนมดิบจะอยู่ในภาวะทรงตัว คือ มีปริมาณเพิ่มขึ้นไม่มาก แม้ว่ารัฐบาลจะมีนโยบายการส่งเสริมในการทำเกษตรโคนม โดยประกาศใช้มาตรฐานการรับซื้อน้ำนมโค ณ ศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ ควบคู่กับการประกาศราคากลางรับซื้อน้ำนมโค ณ ศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 ซึ่งส่งผลให้มีการขยายการเลี้ยงโคนมเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี อย่างไรก็ตาม การขยายขนาดการเลี้ยงโคนม ต้องใช้เวลามากกว่าปศุสัตว์อื่นๆ ประกอบกับผลกระทบสืบเนื่องจากภาวะน้ำท่วมขังในปีนี้ ซึ่งส่งผลให้ปริมาณโคนมที่พร้อมจะให้ผลผลิตในปีหน้านั้นลดลง” นายสมสวัสดิ์ กล่าว
อนึ่ง ปี 2559 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ระบุว่า ไทยมีจำนวนโคนมทั้งหมด 622,892 ตัว โดยประมาณ ให้ผลผลิตน้ำนมโคกว่า 1,161 ล้านลิตร หรือกิโลกรัม ต่อปี เป็นผลผลิตจากภาคกลาง 63% ภาคอีสาน 25% ภาคเหนือ 11% ภาคใต้ 1% จังหวัดที่มีอัตราการผลิตน้ำนมสูงสุด 3 อันดับแรก คือ สระบุรี 22% นครราชสีมา 15% ลพบุรี 10% ของปริมาณน้ำนมดิบทั้งประเทศ
ในขณะที่ราคาแม่โคนมพร้อมรีดนมปัจจุบันพุ่งขึ้นเป็นตัวละ 5 หมื่นบาท จาก 5 ปีที่ผ่านมาตัวละ 2 หมื่นบาท ลูกโคนมเพศเมียที่หย่านมขณะนี้ตัวละ 3,000 บาท ลูกโคนมเพศผู้ยังไม่หย่านมตัวละ 700-800 บาท

ขอบคุณข้อมูลจากประชาชาติธุรกิจ