ฤทธิ์น้ำทะเลหนุนท่วมสวนกล้วยไม้เสียหาย1.5แสนต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 6 ธันวาคม น้ำทะเลหนุนสูงสุดโดยสูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางกว่า 3 เมตร ประกอบกับการผันน้ำใน 12 ทุ่งเจ้าพระยาตอนล่างที่จ.พระนครศรีอยุธยา ลงแม่น้ำท่าจีนเพื่อให้ไหลอออกสู่ทะเลได้เร็วยิ่งขึ้นนั้น ส่งผลทำให้เกิดภาวะน้ำในแม่น้ำท่าจีนตอนล่างบริเวณพื้นที่ ต.ท่าเสา ต.ท่าไม้ ต.หนองนกไข่ และต.บางยาง ของอ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เกิดการยกตัวสูงขึ้นมากกว่าปกติ อีกทั้งยังเกิดเหตุการณ์คันดินริมแม่น้ำท่าจีนบางช่วงของพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลบางยาง เกิดพังลง ทำให้น้ำในแม่น้ำท่าจีนไหลเข้าท่วมสวนกล้วยไม้ที่อยู่ติดกับแม่น้ำในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.บางยาง และหมู่ที่ 2 ต.หนองนกไข่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นพื้นที่ๆ อยู่ติดกัน ได้รับความเสียหายรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ไร่ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ทำการเกษตรอื่น อาทิ สวนมะนาว สวนฝรั่ง และสวนมะพร้าว ได้รับผลกระทบจากน้ำทะลักเข้าท่วมเช่นเดียวกัน สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก

นางชูศรี พรหมประทาน อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ที่ 2 ต.หนองนกไข่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เจ้าของสวนกล้วยไม้บนเนื้อที่กว่า 8 ไร่ มีต้นกล้วยไม้ประมาณ 150,000 ต้น กล่าวว่า เกิดภาวะน้ำในแม่น้ำท่าจีนยกตัวสูงขึ้นมากแล้วก็ไหลทะลักเข้ามาท่วมสวนกล้วยไม้อย่างรวดเร็วจนไม่สามารถป้องกันอะไรได้ สาเหตุมาจากคันดินริมแม่น้ำท่าจีนที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก เกิดการทรุดตัวและพังลง อีกทั้งระดับน้ำยังสูงมากกว่าปกติอีกด้วย ทั้งนี้ตนไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนตั้งแต่เกิดจนอายุ 64 ปี อย่างปี 2554 มีเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่แต่ไม่เคยเข้าท่วมสวนเกษตรในพื้นที่ทั้ง 2 ตำบลแบบนี้เลย ขณะนี้ได้แก้ปัญหา คือ นำกระสอบทรายมาทำเป็นคันกั้นน้ำก่อน จากนั้นนำท่อสูบน้ำมาสูบน้ำออกจากสวนให้ได้เร็วที่สุด หากคืนนี้สามารถสูบน้ำออกจากสวนได้ทัน กล้วยไม้ที่ปลูกไว้ทั้งหมดจะรอดตาย แต่ถ้าสูบออกได้ไม่ทัน รากของกล้วยไม้ต้องแช่อยู่ในน้ำทั้งคืน จะส่งผลทำให้กล้วยไม้เกิดการเฉาและตายลงได้ในที่สุด

 

ที่มา : มติชนออนไลน์