“อากาเว่” วัตถุดิบสำคัญยิ่งในการผลิตเตกีล่า และน้ำตาล

ต้นอากาเว่ นั้นบ้านเราปลูกเป็นไม้ประดับ เป็นไม้ทนแดด ไม่ต้องการน้ำมาก คือเป็นพืชทะเลทรายนั่นแหละ ต้นตอเขามาจากเม็กซิโกกับบางรัฐร้อนๆ ของอเมริกา ตอนนี้ปลูกกันไปทั่วโลก

หลายสิบปีก่อนเมืองไทยเคยฮิตอากาเว่กันหนักหนา ปั่นราคากันขึ้นไปต้นละเป็นหมื่นเป็นแสน รองนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง ถูกเรียกชื่อว่า “ชู อากาเว่” เพราะแกเลี้ยงอากาเว่เป็นเรื่องเป็นราว แกเป็นคนรวย เรื่องราวการเลี้ยงอากาเว่ของแกจึงเป็นเรื่องของเล่นคนรวยให้คนลือกันยาว

คนเม็กซิโกเขาหัวเราะกลิ้ง เพราะอากาเว่บ้านเขาขึ้นตามหัวไร่ปลายนา ขึ้นทิ้งขึ้นขว้าง หาได้มีค่าดั่งทองแต่ประการใด

อากาเว่ หน้าตาเหมือนต้นว่านหางจระเข้แหละคุณ ทั้งต้นทั้งใบทั้งเยื่อเหนียวๆ ในใบล้วนถอดแบบกันมา คือเขาเป็นสกุลเดียวกัน พี่น้องกัน แต่ว่านหางจระเข้เล็กกว่าเท่านั้น

อย่างที่บอกว่าบ้านเราปลูกอากาเว่ไว้เป็นไม้ประดับ ส่วนว่านหางจระเข้แม้จะเอามาทำเครื่องดื่มกันบ้าง ก็ไม่ได้เป็นที่นิยมอะไร

แต่ที่เม็กซิโก กับอเมริกา อากาเว่เป็นวัตถุดิบสำคัญยิ่งในการผลิตเตกีล่า และน้ำตาล เส้นใยก็เอามาใช้ได้ แต่เขาเอามาผลิตเตกีล่าเป็นล่ำเป็นสันกว่าทำอย่างอื่น

เตกีล่า (tequila) เป็นเหล้าประจำชาติเม็กซิโก น้ำใสแหนวแต่ดีกรีสูง ฤทธิ์แรงแบบเตะม้ากระเด็น รสขมฉุน เหมือนเหล้าขาวบ้านเรา หรือเหมือนวอดก้าของรัสเซีย ราคาไม่แพง เน้นเมาเข้าว่า ทำเอานอกจากคนเม็กซิโกแล้ว หลายๆชาติตอนนี้ก็เมาเตกีล่าหัวราน้ำ

ที่ฉันเคยเห็นมาว่า เมากับเขาเอามากก็คืออเมริกัน คือคนอเมริกันนี่ใครเขามีอะไรพี่แกขอชิมหมด ชิมแล้วติดใจหมด วอดก้านี่พี่กันก็กินกันมากมายหลายไห ส่วนเตกีล่าก็หาได้เมากันน้อยหน้าไม่

ล่าสุดนี่เขาว่าคนรัสเซีย ซึ่งมีวอดก้าของตัวเองแล้ว และติดอับดับขี้เหล้าโลกกับเขาอีกประเทศหนึ่ง ก็หันมาตำจอกเตกีล่ากับเขาด้วย เตกีล่าเลยขายดีระเบิด เป็นเช่นนี้มากว่ายี่สิบปีแล้ว

เมื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตเหล้าขายดีทั่วโลกเช่นนี้ อากาเว่ก็ขายดีไปด้วย เขาต้องปลูกอากาเว่กันเป็นอุตสาหกรรม เพื่อป้อนโรงงานผลิตเตกีล่า

แต่บอกก่อนว่า จากอากาเว่นับร้อยชนิด ชนิดที่เขาเอามาทำเตกีล่านี่เขาเรียกว่า อากาเว่สีน้ำเงิน (blue agave) ซึ่งพบในเม็กซิโกเท่านั้น

แต่ปัญหาของอากาเว่สีน้ำเงิน และสีอื่นอีกทั่วไปก็ดี ก็เหมือนพืชทะเลทรายทั่วไป คือทนก็จริง แต่โตช้ามาก เป็นพวกพิรี้พิไรร่ำไรอ้อยอิ่ง ออกดอกช้ามาก เจริญพันธุ์ช้ามาก ชื่อเรียกเล่นๆ ของต้นอากาเว่ คือ “ต้นร้อยปี” คือเรียกประชดประชันว่ากว่าจะออกดอกแต่ละทีต้องรอกันเป็นร้อยปี

อากาเว่ ขยายพันธุ์โดยการผสมเกสรในดอกแล้วแพร่พันธุ์ไปเหมือนไม้ดอกอื่นๆ เมื่อผสมพันธุ์แล้วจะเกิดเป็นต้นเล็กๆ ใกล้ๆ ต้นแม่ เมื่อต้นเล็กแข็งแรงพอใช้ ต้นแม่ก็จะตาย เป็นเช่นนี้เรื่อยไป

แต่อากาเว่มีปัญหาตรงที่ต้องใช้เวลาหลายปีมากกว่าจะออกดอกแต่ละครั้ง นั่นหมายความว่า โอกาสในการกระจายพันธุ์ของมันก็น้อยไปด้วย

อากาเว่ แพร่พันธุ์ยากขึ้นไปอีก เพราะเกสรในดอกจะผสมกันได้สำเร็จเฉพาะในตอนกลางคืนเท่านั้น ถ้าเป็นกลางวันถึงเกสรปลิวไปผสมกัน ก็ชกลม ไม่มีผล

การแพร่พันธุ์ของอากาเว่ แทนที่จะอาศัยผีเสื้อหรือแมลงอื่นก็หมดสิทธิ์ เพราะบรรดาท่านๆ เหล่านั้นหลับหมด

มันจึงตกเป็นหน้าที่ของค้างคาว

ในเม็กซิโก มีค้างคาวเฉพาะถิ่นที่ทำหน้าที่กระจายพันธุ์ให้อากาเว่มาเนิ่นนาน แต่เมื่อไม่นานนี้ นักอนุรักษ์พบว่าค้างคาวเหล่านี้ถูกล่า และเริ่มลดจำนวนลงเรื่อยๆ และล่าสุดให้อยู่ในตำแหน่งที่ใกล้สูญพันธุ์

ค้างคาวจมูกยาว จมูกสั้น ในเม็กซิโกที่เคยทำหน้าที่กระจายพันธุ์ให้อากาเว่สูญพันธุ์ไปแล้ว ตอนนี้ค้างคาวลิ้นยาวที่ยังทำหน้าที่อยู่อย่างอ่อนเปลี้ย ก็ใกล้จะสูญพันธุ์เต็มที หมดจากนี้ยังคิดไม่ออกว่าอากาเว่จะขยายพันธุ์อย่างไร

แต่คนไม่ค่อยสนใจค้างคาว ค้างคาวไม่น่ารักเหมือนแมวเหมือนหมา ไม่สวยเหมือนนกหรือผีเสื้อ คนจึงปล่อยให้ค้างคาวสูญพันธุ์ไปพันธุ์แล้วพันธุ์เล่า และเจ้าค้างคาวลิ้นยาวนี่ก็ท่าจะตามรอยไปติดๆ

The Mexican long-tongued bat is one of the species that pollinates agave, but its ecosystem is being disrupted by large-scale, cheaper methods of making tequila.

การจะสูญพันธุ์หรือไม่ ไม่กระเทือนเจ้าของไร่อากาเว่ หรือเจ้าของโรงงานเตกีล่า เพราะพวกนี้หันไปใช้อากาเว่ที่ขยายพันธุ์โดยการโคลน หรือการตัดต่อพันธุกรรม คงเพราะเบื่อจะรอกับอาการเรื่องมากของอากาเว่ แถมมาซ้ำกับเรื่องค้างคาวจะสูญพันธุ์นี่เข้าอีก

อุตสาหกรรมเตกีล่า ขยายตัวพรวดพราดปีละ 60% ในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา พูดให้ชัดกว่านั้นคือ เราซดเตกีล่ากันเพิ่มขึ้นทุกปีอย่างน่าเสียวสยองยิ่ง

คนมีปัญหาของคนจึงหันเข้าหาเหล้าราคาถูกอย่างเตกีล่า อากาเว่มีปัญหาของตัวเอง ที่ดันเป็นไม้พิสดาร มีลูกมีหลานยากกว่าใครอื่น แต่อากาเว่ไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร ค้างคาวที่กำลังจะสูญพันธุ์ก็เช่นกัน คงยากจะหันหน้าไปหาใครได้

เขาจึงรณรงค์ให้คนหันมาดื่มเตกีล่าอย่างสร้างสรรค์ คือดื่มจากการผลิตที่ไม่ใช้อากาเว่ตัดต่อพันธุกรรม และควรดื่มไปเรียกร้องให้ผู้ผลิตรับผิดชอบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปด้วย

ความข้อนี้ฉันเห็นด้วย แต่ฉันไม่คาดหวังอะไรมาก

คือถ้าคุณเคยเห็นคนเมาเตกีล่า คุณก็จะคิดเหมือนฉันว่า มันหวังอะไรไม่ได้