เผยแพร่ |
---|
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ในฐานะโฆษกกรมปศุสัตว์ แนะนำผู้บริโภคใส่ใจการเลือกซื้อเนื้อสัตว์เพื่อความปลอดภัยในการบริโภคว่า ควรเลือกซื้อเนื้อสัตว์จากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาได้ สถานที่จำหน่ายต้องสะอาดถูกสุขลักษณะ อาทิ ตลาดสด ร้านค้าโมเดิร์นเทรด ห้างสรรพสินค้า ที่รับเนื้อสัตว์จากโรงฆ่าสัตว์และแปรรูปเนื้อสัตว์ที่ได้รับใบอนุญาตและผ่านการตรวจสอบมาตรฐานจากพนักงานตรวจโรคสัตว์มาแล้ว
“ผู้บริโภคควรใส่ใจเลือกสินค้าเนื้อสัตว์จากสถานที่จำหน่ายที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ภายใต้สัญลักษณ์ “ปศุสัตว์ OK” ซึ่งมีการจำหน่ายเนื้อสัตว์ที่มีความความปลอดภัยสำหรับการบริโภค และเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการที่ได้มาตรฐานตลอดห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่ฟาร์ม โรงฆ่าสัตว์ จนถึงสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์ และยิ่งไปกว่านั้น ร้านจำหน่ายเนื้อสัตว์ที่มีตู้แช่เย็น เพื่อคงคุณภาพเนื้อสัตว์ป้องกันการปนเปื้อน จะทำให้มีรสชาติอร่อยยิ่งขึ้นเมื่อนำไปทำอาหาร เพราะจะคงความสดของเนื้อสัตว์ไว้ได้” นายสัตวแพทย์สรวิศ กล่าว
เนื้อสุกรและเนื้อไก่ที่เก็บรักษาในอุณหภูมิต่ำไม่เกิน 10 องศาเซลเซียส หรือเก็บในตู้แช่เย็นที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ก็จะช่วยให้มีคุณภาพและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ผู้บริโภคควรรับประทานเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกแล้วเท่านั้น ซึ่งจะสามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆที่อาจปนเปื้อนมากับเนื้อสัตว์ได้
รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ แนะนำวิธีการเลือกซื้อเนื้อสัตว์ที่ดีว่า เนื้อหมูต้องมีสีชมพูสดถึงแดง แต่ต้องไม่แดงมาก เนื้อละเอียดไม่หยาบ กลิ่นต้องเป็นไปตามธรรมชาติ เมื่อใช้นิ้วกดเนื้อต้องคืนตัวได้ดีไม่เกิดรอยบุ๋มตามแรงกด ไม่ควรซื้อเนื้อหมูที่มีกลิ่นคาว กลิ่นเหม็นรุนแรง หรือมีเมือกลื่น มีสีคล้ำ หรือเนื้อหมูที่สีซีดเกินไปและมีน้ำซึมไหลออกมาแสดงว่าเป็นเนื้อที่เสื่อมคุณภาพ
ส่วนเนื้อไก่ที่สดต้องมีเนื้อสีชมพูเรื่อๆ ไม่มีสีแดงมากหรือไม่ซีดเกินไปจนเป็นสีขาว เนื้อต้องไม่แฟบแบน หนังมีสีขาวอมเหลือง เต่งตึงไม่เหี่ยวย่น และสังเกตที่ภาชนะบรรจุต้องไม่มีน้ำนองออกมาซึ่งแสดงว่าไก่ยังมีความสดอยู่ เพียงเท่านี้ผู้บริโภคก็จะได้บริโภคเนื้อสัตว์ปลอดภัยอย่างแน่นอน