สภาอุตฯ จับมือ ซีพีเอฟ ลงนาม MOU โครงการวอเตอร์ฟุตพริ้นท์ หาแนวทางลดใช้น้ำยั่งยืน

น.ส.พรรรัตน์ เพชรภักดี รักษาการผู้อานวยการ สถาบันน้ำเพื่อความยั่งยืน เปิดเผยว่า ได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล กรมทรัพยากรน้ำบาดาล โดยสถาบันน้ำเพื่อความยั่งยืน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้ให้การสนับสนุนโรงงานอาหารแปรรูปซีพีเอฟ มีนบุรี 2 และโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ซีพีเอฟ สระบุรี ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ให้เป็น 2 โรงงานนำร่องในการดำเนินโครงการประเมินการใช้น้ำบาดาลตลอดวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ หรือวอเตอร์ฟุตพริ้นท์ (Water Footprint) เพื่อส่งเสริมให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถประเมินปริมาณการใช้น้ำตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ โดยใช้หลักการประเมินวอเตอร์ฟุตพริ้นท์ ตามมาตรฐาน ISO 14046 ซึ่งเป็นเครื่องมือด้านสิ่งแวดล้อมที่จะช่วยประเมินปริมาณการใช้น้ำและปริมาณน้ำที่เสื่อมคุณภาพทั้งทางตรงและทางอ้อม

“วอเตอร์ฟุตพริ้นท์ เป็นการประเมินปริมาณการใช้น้ำในกระบวนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม รวมถึงการหาจุด hot spot ของการใช้น้ำ เพื่อนำมาพิจารณาหาแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด และการหาแนวทางในการลดปริมาณการใช้น้ำทั้งจากกระบวนการผลิตและจากช่วงการใช้งานของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมในการสร้างระบบการรับรองการประเมินวอเตอร์ฟุตพริ้นท์ ที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย โดยโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อให้การสนับสนุนภายใต้โครงการทั้งหมด 15 แห่ง ทั้งขนาดเล็ก กลางและใหญ่ เพื่อสร้างต้นแบบที่ดี”น.ส.พรรรัตน์ กล่าว

ด้านนายธีรยุทธ พัชรมณีปกรณ์รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพีเอฟ โรงงานอาหารแปรรูปมีนบุรี 2 เปิดเผยว่า ซีพีเอฟตระหนักในคุณค่าของทรัพยากรน้ำ ที่เป็นทรัพยากรสำคัญของโลกและเป็นปัจจัยสำคัญของการผลิตอาหาร บริษัทจึงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล และได้สมัครเข้าร่วมโครงการประเมินวอเตอร์ฟุตพริ้นท์ เพื่อร่วมส่งเสริมให้เกิดการใช้น้ำและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถลดต้นทุนในการผลิตและบริการ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ การเข้าร่วมโครงการนำร่องในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการแสดงถึงความตระหนักในการบริหารจัดการน้ำตามมาตรฐานสากลแล้ว ผลของการวิเคราะห์จะนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ของซีพีเอฟให้มีการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพตลอดห่วงโซ่การผลิต ตอบสนองต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารที่ยั่งยืน

ส่วน นายธงชัย สุขพัฒนนิกูลรองกรรมการผู้จัดการ ซีพีเอฟ โรงงานอาหารแปรรูป สระบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้มิใช่ประเมินเพียงการใช้น้ำเฉพาะที่โรงงานผลิตอาหารเท่านั้น แต่ยังประเมินทั้งทางตรงและอ้อมตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การเพาะปลูกพืชอาหารสัตว์ การผลิตอาหารสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ การผลิตอาหาร รวมทั้งการขนส่ง และการกำจัดของเสีย และการคำนวณวอเตอร์ฟุตพริ้นท์ จะทำให้ทราบถึงข้อมูลปริมาณการใช้น้ำในทุกๆกิจกรรมตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ที่สำคัญการประเมินวอเตอร์ฟุตพริ้นท์จะนำไปสู่การวิเคราะห์และวางแผนการใช้น้ำอย่างเหมาะสม ช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์น้ำบาดาลและน้ำผิวดิน ก่อให้เกิดระบบการประเมินวอเตอร์ฟุตพริ้นท์ที่เป็นรูปธรรมและเหมาะสมสำหรับประเทศไทยโดยเป็นไปตามมาตรฐานสากล และทำให้เกิดความตระหนักในการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า” นางธงชัย กล่าว

 

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์