เผยแพร่ |
---|
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าชาวบ้านพบซากฟอสซิลสุสานหอยซึ่งคาดว่ามีอายุหลายพันปี วางเรียงรายอยู่ ในพื้นที่ที่ ม.11 ต.ด่านสวี อ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งเป็นเขตรอยต่อในพื้นที่ของชาวบ้านกับเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร จึงอยากให้มาตรวจสอบเพื่อประชาสัมพันธ์พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยงแห่งใหม่ของจ.ชุมพรต่อไป
นายภูษิต หรือไข่เจียม วงษ์ทอง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/1 ม.11 ต.ด่านสวี อ.สวี จ.ชุมพร ได้พาไปดูซากฟอสซิลหอยดังกล่าว พบว่าวางเรียงรายเป็นจำนวนมากอยู่บริเวณหน้าบ้านริมเชิงเขา มีความสูงจากริมชายทะเล 10-15 เมตร เมื่อสังเกตุดูใกล้ๆเห็นเป็นซากฟอสซิลหอยตามที่ได้แจ้ง ฝังอยู่กับก้อนหินขนาดเล็กใหญ่ แต่ซากหอยดังกล่าวยังไม่ทราบว่าเป็นชนิดใดมีขนาดลำตัว 2-3 เซนติเมตร ทั้งนี้ ต้องรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
นายภูษิต กล่าวว่า เมื่อปี 2540 ตนได้ขุดปรับที่ดินบริเวณดังกล่าว ซึ่งอยู่ติดกับทะเลเพื่อปลูกบ้าน พบว่าขณะที่รถไถกำลังปรับพื้นดินอยู่นั้น ได้ขุดเจอก้อนหินขนาดเล็กใหญ่จำนวนหลายก้อน จึงแจ้งไปยังกรมทรัพยากรธรณีเพื่อให้มาตรวจสอบสำรวจ ภายหลังการตรวจสอบจึงรู้ว่าเป็นซากฟอสซิลหอยฝังอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งซากดึกดำบรรพ์อายุหลายพันปีมีมูลค่าสูง
นายภูษิต กล่าวอีกว่า ซึ่งสุสานหอยหรือฟอสซิลหอยดังกล่าว คาดว่าจากสภาพแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลง พืชและสัตว์ล้มตายลงตามวงจรชีวิต เกิดการสะสมและทับถมกัน อีกนับล้านปีต่อมา ก็เกิดเป็นชั้นหินแข็งตามกระบวนการทางธรณีวิทยา ซากหอยกลายเป็นฟอสซิล หรือซากดึกดำบรรพ์ ส่วนซากพืชกลายเป็นถ่านหินลิกไนต์ซึ่งอยู่ชั้นล่างซากหอยอีกที
นายภูษิต กล่าวด้วยว่า ต่อมาเปลือกโลกและสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวถูกยกตัวสูงขึ้นเป็นที่ดอน จนเมื่อ 1,000-6,000 ปีที่ผ่านมา เกิดปรากฏการณ์ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นทั่วโลก แล้วลดระดับลงมาเรื่อยๆ ทำให้บริเวณสุสานหอยกลายเป็นพื้นที่ชายฝั่งทะเลเช่นปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ซากฟอสซิลหอยดังกล่าวต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมทรัพยากรธรณีเข้ามาสำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อยืนยันให้แน่ชัด ก่อนจะร่วมกันหาแนวทางพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไป
ที่มา : ข่าวสดออนไลน์