พาณิชย์ผุด IP Mart ตลาดสินค้าทรัพย์สินทางปัญญา – นวัตกรรม

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ กล่าวในการเปิดตัวตลาดกลางทรัพย์สินทางปัญญา หรือ IP Mart ว่า สินค้าโดยในเบื้องต้นมีสินค้า กว่า 600 รายการ ในตลาดดังกล่าวและในภายใน 1 ปีจะมีเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 รายการ และมูลค่าการซื้อขายประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งเป็นสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ได้แก่ สิทธิบัตร อนุสิทธิบัตร ออกแบบผลิตภัณฑ์ เครื่องหมายการค้า และลิขสิทธิ์ ที่ตอบโจทย์ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล รวมถึงสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ที่มีตราสัญลักษณ์ GI และผลงานนวัตกรรมที่ใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำธุรกิจสินค้า ทุกตัวผ่านการกลั่นกรอง และตรวจสอบหลักฐานเบื้องต้นโดยคณะทำงานของกรมทรัพย์สินทางปัญญา ก่อนนำมาเสนอขาย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ

“IP Mart จะเป็นศูนย์กลางของการซื้อขายสินค้าทรัพย์สินทางปัญญาต่อให้กับผู้ค้นคิดสิ่งประดิษฐ์ต่างๆและผู้ที่สนใจจะซื้อสินค้า ความคิดให้พบปะกัน โดยตรงโดยมี IP Mart เป็นตัวกลาง ซึ่งในหลายประเทศก็ทำตลาดในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว และไทยโดยกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับการผลักดันนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม หรือไทยแลนด์ 4.0 ให้เกิดผลรูปธรรม กรมทรัพย์สินทางปัญญาจึงพัฒนา IP Mart ขึ้นมาเพื่อเป็นตลาดกลางให้ผู้ประกอกบอการขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) และวิสาหกิจชุมชน ใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญา รวมทั้งนวัตกรรมเพื่อนำไปสร้างผลิตภัณฑ์หรือขยายธุรกิจ ซึ่งจะช่วยลดการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ” น.ส.ชุติมา กล่าว

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึง IPMart โดยง่ายผ่านเว็บไซต์ www.thaiipmart.com หรือแอพพลิเคชั่นมือถือบนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น IP Mart รองรับการใช้งาน 2 ภาษา ไทยและอังกฤษ การเจรจาธุรกิจแบบ real time ที่ผู้ซื้อ-ผู้ขายสามารถติดตามผลได้ตลอดเวลา พร้อมทั้งมีระบบแจ้งเตือนเมื่อได้รับอนุมัติจากกรมทรัพย์สินทางปัญญาให้ประกาศขายสินค้า หรือเมื่อมีผู้สั่งสินค้า เป็นต้น

นอกจากนี้ รมช.พาณิชย์ยังได้เป็นสักขีพยานการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือหรือ MOU ระหว่างหน่วยงานภาครัฐด้านนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญาระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญากับหน่วยงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของไทย 2 หน่วยงานด้วยกัน คือ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับห่วงโซ่มูลค่านวัตกรรมของประเทศ ตั้งแต่การทำวิจัยและพัฒนาการเพิ่มประสิทธิภาพการจดทะเบียนคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา และการนำผลงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์มาพัฒนาเป็นนวัตกรรมออกสู่ตลาด ซึ่ง IP Mart เป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิบัติการภายใต้ MOU ทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวด้วย

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์