กระเบน-กะพง แม่น้ำแม่กลอง ตายเพียบ ยังมืดมน หาสาเหตุไม่ได้ ผู้ว่าฯสมุทรสงคราม รุดตรวจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี ชาวบ้านที่อยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำแม่กลอง ทั้งในพื้นที่ อ.อัมพวา และ อ.เมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงครามได้พบซากปลากระเบนจำนวนมาก ลอยในแม่น้ำแม่กลองตามกระแสน้ำขึ้นลง และ รศ.สพญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ ผอ.ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ และอาจารย์ประจำคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมร้อยโทพัชรโรดม อุนสุวรรณ ประธานชมรมอนุรักษ์ปลากระเบนสมุทรสงคราม ลงเรือสำรวจปลากระเบนในแม่น้ำแม่กลอง เพื่อนำตัวอย่างเนื้อเยื่อไปตรวจหาสาเหตุการตายนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 6 ตุลาคม นายคันฉัตร ตันเสถียร ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วยรองศาสตราจารย์ สัตวแพทย์หญิง ดร.นันทริกา ชันซื่อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ และอาจารย์ประจำคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และร้อยโทพัชโรดม อุนสุวรรณ ประธานชมรมอนุรักษ์ปลากระเบนสมุทรสงคราม ได้ร่วมกันนั่งเรือตรวจการณ์เทศบาลเมืองสมุทรสงครามออกตรวจเยี่ยมผู้เลี้ยงปลากระชังที่อยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำแม่กลอง พบว่าปลากะพงตายเป็นจำนวนมาก

นายคันฉัตร กล่าวว่า สาเหตุปลากะพงตาย คาดว่าเกิดจากปอระสิดบางชนิดเกาะกินที่ตัวปลาอาจเป็นสาเหตุหนึ่ง นอกจากนี้คุณภาพน้ำก็มีปัญหาเนื่องจากปนเปื้อนเศษดินหินทรายและสารเคมีไหลลงมาทำให้ปลาตายได้ โดยวันนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่นำน้ำในแม่น้ำแม่กลองไปตรวจหาค่าออกซิเจนละลายในน้ำ (BOD) พบว่าเขตอำเภอเมืองสมุทรสงครามแม้จะอยู่ใกล้ทะเลปากอ่าวแม่กลอง แต่ค่า BOD ต่ำมากเพียง 1.57 เขตอำเภออัมพวาพื้นที่ปลากระเบนตายมากที่สุด 1.78 ส่วนเขตอำเภอบางคนที 3.42 ซึ่งปกติค่า BOD ไม่ควรต่ำจาก 4 มิลลิกรัมต่อลิตร การช่วยเหลือผู้เลี้ยงปลากะพงนั้นเบื้องต้นจะหารือกับสหกรณ์ประมงแม่กลองจำกัด นำปลากะพงที่เหลือและกำลังจะตายขึ้นมาแช่เย็นเก็บไว้ เนื่องจากช่วงนี้อยู่ในเทศกาลกินเจทำให้ราคาปลาตกต่ำ นอกจากนี้ยังจะประสานกรมชลประทานขอให้ปล่อยน้ำจืดจากเขื่อนวชิราลงกรณ์ลงมาให้มากขึ้น เพื่อไล่น้ำคุณภาพต่ำออกไปให้เร็วที่สุด และวันนี้ เวลา 09.00 น.จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมหาสาเหตุที่ชัดเจนว่าสาเหตุปลากระเบนตายเกิดจากอะไรแน่ ส่วนกรณีที่โลกโซเชียล บอกว่า น่าจะเกิดจากน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมที่ลักลอบปล่อยออกมานั้น นายคันฉัตร บอกว่าเรื่องนี้ยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

นายกฤษฎา ตั้งวิชิตฤกษ์ อายุ 39 ปี ชาวตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมืองสมุทรสงคราม กล่าวว่าตนมาเลี้ยงปลากะพงในกระชัง พื้นที่หมู่ 7 ตำบลบ้านปรก อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จำนวน 20 กระชัง ประมาณ 150 ตัว ก่อนหน้านี้น้ำในแม่น้ำแม่กลองเริ่มมีสีแดง ปลาในกระชังขนาดตัวละ 4-5 กิโลกรัมก็เริ่มไม่กินอาหารและทยอยตายวันละกว่า 10 ตัว มากว่า 1 สัปดาห์ เสียหายวันละเกือบ 1 หมื่นบาท ที่เหลือเริ่มทยอยตายจะตักขึ้นขายราคาก็ตกเนื่องจากติดช่วงเทศกาลกินเจ จึงยังไม่รู้จะทำอย่างไร จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ และหาสาเหตุของปลาตายครั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาระยะยาวต่อไป

อย่างไรก็ตามระหว่างตรวจเยี่ยมผู้เลี้ยงปลากระชัง รองศาสตราจารย์ สัตวแพทย์หญิง ดร.นันทริกาฯ ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่าพบซากปลากระเบนลอยในแม่น้ำแม่กลอง เป็นระยะๆ ชาวบ้านใช้เชือกผูกไว้ จึงได้ออกไปตรวจสอบพบว่าสภาพปลาเน่าเหม็นส่งกลิ่นไปทั่วบริเวณ จึงให้เจ้าหน้าที่นำไปเผาทำลายต่อไป

โดยในวันพรุ่งนี้ (7 ต.ค.) เวลา 10.00 น.เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดสมุทรสงคราม จะออกสำรวจความเสียหายปลากระชังที่ชาวบ้านเลี้ยงอยู่ตามริมสองฝั่งแม่น้ำแม่กลองซึ่งมีทั้งปลากะพง และปลาทับทิม จำนวนมากเพื่อหาทางเยียวยาต่อไป