เพิ่มโทษตัด สักยางพะยูงชิงชัน คุก20ปีปรับ2ล้าน

เมื่อวันที่ 30 มกราคม นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ตนพร้อมนายขวัญชัย ดวงสถาพร กรรมการปฏิรูปฯ ได้เข้าร่วมสัมมนาโครงการรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุง พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 จัดโดยกรมป่าไม้

เพื่อส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจในพื้นที่เอกชนตามร่างแผนปฏิรูปด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องทรัพยากรป่าไม้และสอดคล้องกับนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานต่างเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น โดยประเด็นสำคัญที่มีการปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 คือ จะปรับนิยามคำว่าป่าให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน มีการควบคุมการตัดไม้เฉพาะต้นไม้ที่ขึ้นในป่าธรรมชาติ

ถ้าปลูกต้นไม้นอกเขตพื้นที่ป่าถ้าจะตัดให้รับรองตนเองโดยใช้หลักฐานโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองกรรมสิทธิ์ที่ดิน เพื่อส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจในพื้นที่เอกชนในระยะยาว พร้อมทั้งจะมีการควบคุมการใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 โดยเข้มงวดมากขึ้นกว่ากฎหมายเดิม

นายธีรภัทร กล่าวว่า นอกจากนั้นที่ประชุมเห็นว่าประชาชนสามารถตัดต้นไม้ที่ล้มลงหรืออาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินในอนาคตได้ก่อน แล้วจึงมาดำเนินการตามขั้นตอนระเบียบที่เกี่ยวข้อง มีการอำนวยความสะดวกการตัดไม้ยางพาราที่หมดอายุการกรีดยางในพื้นที่ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมทั้งจะมีควบคุมการแปรรูปไม้อย่างจริงจัง และเพิ่มบทลงโทษผู้กระทำผิดหรือผู้ฝ่าฝืนกฎหมายให้สูงขึ้น

โดยเฉพาะการลักลอบทำไม้สัก ไม้ยาง ไม้พะยูง ไม้ชิงชัน เป็นต้น และไม้หวงห้ามประเภท ข. ที่ขึ้นในป่าธรรมชาติ ลงโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี ปรับสูงสุด 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยจะยึดของกลางที่ใช้ในการกระทำผิดให้ตกเป็นของแผ่นดินทันที ทั้งนี้คาดว่าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะปรับแก้ตามความคิดเห็นให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ. 2561 และจะเสนอ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมส(ทส.) ดำเนินการตามขั้นตอนการเสนอกฎหมายต่อไป