โค่นยางชดเชย 1.6 หมื่น

นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดผยว่า กยท.ร่วมหารือปรัเบปลี่ยนการผลิตเพื่อลดความเสี่ยง ในโครงการพัฒนาอาชพีเกษตกรรมใหม่เพื่อทดแทนการปลูกยาง เป้าหมาย 3 แสนไร่ เตรียมเสนอ 2 ทางเลือกให้ นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้สรุปเลือกแนวทางไหน ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ แนวทางแรกชดเชยเงินให้ชาวสวนยางที่ปรับเปลี่ยนอาชีพ รายละ 1.6 หมื่นบาท/ไร่ ไม่เกินรายละ 10 ไร่ งบฯ ที่ใช้ 4,874 ล้านบาท แนวทางที่ 2 ชดเชยเงินให้ชาวสวนยางที่ปรับเปลี่ยนอาชีพ รายละ 1 หมื่นบาท/ไร่ ไม่เกินรายละ 10 ไร่ งบฯ ที่ใช้ 3,000 ล้านบาท

“หลังจากชาวสวนเข้าร่วมโครงการกับ กยท.แล้ว กรมประมง กรมปศุสัตว์ และกรมส่งเสริมการเกษตร ก็จะรับไม้ต่อส่งเสริมอาชีพ เพื่อเสริมรายได้ ผู้ที่เข้าร่วมโครงการต้องไม่ซ้ำซ้อนกับกลุ่มชาวสวนที่โค่นยาง ตามพ.ร.บ.กยท. ที่ได้รับชดเชยปัจจัยการผลิต เช่น พันธุ์พืช ปุ๋ย ค่าแรง ระยะเวลา 7 ปี มูลค่า 16,000 บาท/ไร่”

นายกฤษฎา บุญราช กล่าวภายหลังตัวแทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เข้าพบว่า หารือถึงการส่งออกไม้ยางพารา ที่ตลาดต่างประเทศต้องการจำนวนมาก โดยเฉพาะป้อนอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งประเทศผู้นำเข้าไม้เริ่มนำกฎเกณฑ์มาตรฐานรับรองไม้ยางมาใช้ จะมีผลอีก 2 ปีข้างหน้า ดังนั้น ต้องการให้กระทรวงเกษตรฯ เร่งรัดรับรองมาตรฐานไม้เศรษฐกิจ เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกในอนาคต และให้กระทรวงเกษตรฯ ประสานกับเกษตรกรที่ต้องการโค่นไม้ยาง และรับรองมาตรฐานดังกล่าวด้วย

ปัจจุบัน ผู้ประกอบการได้พัฒนาเทคโนโลยีการผลิต มีผลิตภัณฑ์ยางพาราใช้ปูพื้นสนามกีฬา สนามเด็กเล่น ฯลฯ แต่มีการนำเอาไปใช้น้อย ต้องการให้ประสานกับหน่วยงานรัฐให้มีเงื่อนไขใช้ผลิตภัณฑ์ยางของสมาชิก ส.อ.ท. เรื่องนี้จะเสนอผ่าน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจากข่าวสด