อย. และ กรมประมง ย้ำ ปลานำเข้าจากญี่ปุ่น ไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี

อย. จับมือ กรมประมง แจงเรื่องปลานำเข้าจากจังหวัดฟุกุชิมาประเทศญี่ปุ่นมีการนำเข้าอย่างถูกต้องเป็นไปตาม  ข้อกำหนดประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง มาตรฐานอาหารที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี ขอผู้บริโภคอย่าวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่ปลอดภัย เพราะการนำเข้าปลาจากทุกประเทศ เจ้าหน้าที่ด่านประมงมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด รวมทั้ง อย. ยังทำหน้าที่เฝ้าระวังตรวจสอบมิให้มีผลิตภัณฑ์ที่ไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคในประเทศอย่างเข้มงวด แต่หากพบการปนเปื้อนที่เป็นอันตรายก็จะสั่งเรียกคืนหรือระงับการนำเข้าทันที

นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา พร้อมด้วย นางอุมาพร พิมลบุตร รองอธิบดีกรมประมง ร่วมกันแถลงข่าวว่า กรณีสื่อญี่ปุ่นรายงานข่าวว่าประเทศไทยได้นำเข้าปลาจากจังหวัดฟุกุชิมา ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดปัญหาโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดเมื่อปี 2554 และปัจจุบันมีการนำเข้าเนื้อปลามาขายที่ร้านอาหารญี่ปุ่นในไทย นั้น

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และกรมประมง ขอชี้แจงข้อมูลให้ประชาชนทราบว่า อย. ได้ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการตรวจสอบการนำเข้าสินค้าอาหาร โดย อย. ได้ถ่ายโอนภารกิจการตรวจสอบการนำเข้าสินค้าเกษตรที่ยังไม่แปรรูปให้กระทรวงเกษตรฯ ได้แก่ สินค้าประมง เนื้อสัตว์ ปศุสัตว์ อาหารทะเล ถั่วธัญพืช เครื่องเทศ มีผลตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา

โดยมาตรการควบคุมอาหารที่ปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีมี2 มาตรการ ได้แก่ 1. การกำหนดปริมาณการปนเปื้อนกัมมันตรังสี โดยมีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง มาตรฐานอาหารที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีกำหนดให้ปนเปื้อนได้ไม่เกิน ไอโอดีน – 131 ไม่เกิน 100 เบคเคอเรลต่อกิโลกรัม หรือ เบคเคอเรล  ต่อลิตร , ซีเซียม – 134 และ ซีเซียม – 137 รวมกันไม่เกิน 500 เบคเคอเรลต่อกิโลกรัม หรือ เบคเคอเรลต่อลิตร 2. การกำหนดชนิดอาหารและพื้นที่เสี่ยงในการนำเข้าจะต้องมีหลักฐานในการระบุประเภทปริมาณอาหารจากประเทศต้นทางแสดงที่ด่านนำเข้าทุกครั้ง

อย. ได้มีการประสานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงสาธารณสุขของประเทศญี่ปุ่นโดยผ่านสถานทูตญี่ปุ่นในประเทศไทย ซี่งสถานทูตญี่ปุ่นได้แจ้งให้ทราบว่าประเทศญี่ปุ่นมีมาตรการจัดการกับสินค้าที่ตรวจพบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีอย่างเข้มงวด โดยหากตรวจพบอาหารที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีเกินมาตรฐานอาหารจากพื้นที่นั้นจะถูกควบคุมและทำลายโดยทันที เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกระจายสินค้าไปสู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

Advertisement

ทั้งนี้ อย. ได้ตรวจสอบผลการเฝ้าระวังในปีพ.ศ. 2560 ซึ่งดำเนินการโดยกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นมีการเก็บตัวอย่างปลาและผลิตภัณฑ์ประมงจากเมืองฟูกุชิมะ จำนวน 7,408 ตัวอย่าง พบการปนเปื้อนเกินเกณฑ์ 8 ตัวอย่าง เป็นปลา Whitespotted char 4 ตัวอย่าง และ Cherry salmon 4 ตัวอย่าง ส่วนปลานำเข้าเป็นปลากลุ่มปลาตาเดียวไม่ใช่ปลาที่มีปัญหาดังกล่าว

ผลการตรวจเฝ้าระวังที่ดำเนินการโดย อย. ในกรณีผลิตภัณฑ์ประมงที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2554 ไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีเกินมาตรฐานแต่อย่างใด และทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้มีการสุ่มตรวจสารกัมมันตรังสีในผลิตภัณฑ์อาหารที่มีโอกาสปนเปื้อนทั้งในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ ช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน 2559 ไม่พบการปนเปื้อนสารซีเซียมเช่นกัน

Advertisement

นางอุมาพร พิมลบุตร รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้ประชุมหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขกำหนดมาตรการในการกำกับดูแล ตรวจสอบ ให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจ และเชื่อมั่นในระบบตรวจสอบสินค้าเกษตรและอาหารที่มีการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ มุ่งเน้นที่จะยกระดับความปลอดภัยของสินค้าเกษตรและอาหารอย่างต่อเนื่อง

เลขาธิการฯ อย. กล่าวในตอนท้ายว่า อย. ร่วมกับกระทรวงเกษตรดำเนินการเฝ้าระวังอาหารที่นำเข้าอย่างเข้มงวดซึ่งหากพบการปนเปื้อน อย. จะใช้มาตรการส่งคืนหรือทำลายทันที ขอให้ประชาชนวางใจในการดำเนินงานของ อย. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้รับฟังข้อมูลข่าวสารให้รอบด้าน อย. จะเฝ้าระวังและติดตามข้อมูลจากทั้งในและต่างประเทศ

หากพบผลิตภัณฑ์อาหารใดที่เป็นอันตราย และประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนทราบทันที หากผู้บริโภคพบผลิตภัณฑ์อาหารใดสงสัยว่าจะเป็นอันตราย สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่ สายด่วน อย. 1556 หรือผ่าน Oryor Smart Application หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด