รู้ไปโม้ด : น้ำพริกลงเรือ

น้าชาติ ประชาชื่น

[email protected]

อยากทราบว่า ทำไมถึงเรียก น้ำพริกลงเรือ มีที่มาอย่างไร ลงเรือไปไหน

เพชรแก้ว

ตอบ เพชรแก้ว

น้ำพริกลงเรือ เป็นน้ำพริกกะปิชนิดหนึ่งในตำรับอาหารชาววังที่มีรสชาติเปรี้ยวเค็มเผ็ดหวานอย่างกลม กลืน รับประทานเคียงกับทั้งผักต้มและผักสด คิดค้นโดย หม่อมราชวงศ์สดับ ลดาวัลย์ เจ้าจอมคนสุดท้ายในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นอาหารที่ พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา (พระอรรคชายาเธอในรัชกาลที่ 5) และ พระราชธิดา สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดล วิมลประภาวดี กรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารี โปรด

ครั้งนั้น เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับปฏิบัติงานในห้องพระเครื่องต้นในราชสำนัก มี หม่อมเจ้าสะบาย นิลรัตน์ เป็นหัวหน้า และ พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ฯ ทรงเป็นผู้ควบคุมห้องต้นเครื่อง หม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์ หลานสาวของหม่อมเจ้าสะบาย ซึ่งเข้ามาในห้องเครื่องวังสวนสุนันทาแต่ยังเยาว์ เล่าถึงที่มาของชื่อ “น้ำพริกลงเรือ” ไว้ว่า

“…เจ้านายเล็กๆ เสด็จเล่นเรือกัน เดือน 11-12 น้ำมันเจิ่ง ทีนี้มืดค่ำแล้วถึงเวลาเสวย ไม่เสด็จขึ้นจากเรือ คุณจอมสดับก็ไปชวนเชียว “มาเพคะ เสด็จเลิกเล่นเพคะ ขึ้นเสวยถึงเวลาเสวยแล้ว ประเดี๋ยวท่านป้า (พระวิมาดาเธอฯ) กริ้วเอาเพคะ” คุณจอมสดับเรียกท่านก็ไม่ขึ้น ไม่ยอมขึ้นมาเสวย คุณจอมสดับก็ตัวสั่นเลย กลัวจะถูกกริ้ว วิ่งขึ้นมาห้องเสวยที่เค้ามีโต๊ะใหญ่พักเครื่องเวลาเครื่องเชิญมาจากห้องเครื่องพักวางจนกว่าจะเลื่อนออกไปที่โต๊ะเสวย

คุณจอมสดับเข้าไปก็ไปเปิดฝาชามดูเครื่องมีอะไร วันนั้นมีเครื่องน้ำพริกกะปิ หมูหวาน ไข่เค็ม ปลาช่อนทอดฟู ปลาทู ปลาดุกย่างทอด กระเทียมดอง หมูพะโล้ คุณจอมก็เทข้าวลง หยิบเครื่องทุกอย่างใส่จาน มะเขือ แตงกวา วางลง ใส่ช้อนส้อม เอาไปถวายเจ้านายเล็กๆ ท่านเสวยหมดทุกองค์ แล้วบอกว่าอร่อยมาก ข้าวอันนี้อร่อยมาก ก็ข้าวคลุกน้ำพริกนี่แหละ แต่เครื่องน้ำพริกมันเยอะ เจ้านายอยากเสวยอีก ก็บอกว่าเอาอย่างวันกินน้ำพริกลงเรือ ก็เลยเรียก น้ำพริกลงเรือ…”

ที่มาเรื่องเดียวกันนี้ นิจ เหลี่ยมอุไร บุตรบุญธรรมของ หม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์ อธิบายไว้ใกล้เคียงกัน ความว่า

“…วันหนึ่งพระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ฯ มีพระประสงค์จะเสวยอาหารในเรือ จึงรับสั่งกับหม่อมราชวงศ์สดับ ลดาวัลย์ ให้ไปดูในครัวว่ามีอะไรบ้าง เมื่อเดินเข้าไปสำรวจอาหารในห้องเครื่องก็พบว่าเหลือเพียงปลาดุกทอดฟูและน้ำพริกตำไว้เท่านั้น จึงนำน้ำพริกกับปลามาผัดรวมกัน เติมหมูหวานลงไปเล็กน้อย ตามด้วยไข่เค็ม ทิ้งไข่ขาว ใช้เฉพาะไข่แดงดิบ วางเรียงรายลงไป แล้วจัดเครื่องเคียง อาทิ ผักต้ม ผักสด ถวายเป็นอาหารมื้อเย็นบนเรือ ซึ่งทั้งพระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ฯ และกรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารี ทรงโปรดน้ำพริกถ้วยนี้มาก…”

และอีกเนื้อความว่า ครั้งหนึ่งสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารี (พระนามลำลองว่า สมเด็จหญิงน้อย) มีพระประสงค์จะแล่นเรือท่องไปตามคูคลองในเขตอุทยานวังสวนสุนันทา มีรับสั่งให้เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับเข้าไปหาเครื่องเสวยที่มีเหลืออยู่ในห้องเครื่องเพื่อนำไปเสวยในเรือด้วย แต่เนื่องจากเรือที่นั่งมีเนื้อที่จำกัดไม่ควรนำถ้วยชามลงไปมาก เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับจึงตักเครื่องเสวยที่เหลืออย่างละเล็กละน้อยผสมคลุกเคล้า รวมทั้ง ไข่เค็ม ผักจิ้มใส่จานลงไปในเรือ ปรากฏว่าสมเด็จหญิงน้อยเสวยเอร็ดอร่อยมาก รับสั่งให้เรียกกับข้าวชนิดนี้ว่า น้ำพริกลงเรือ

ที่มา ข่าวสดออนไลน์