เท 30 ล้าน! พลิกโฉมอ่างห้วยยาง แลนด์มาร์กใหม่ “เมืองย่าโม”

โคราชเตรียมพลิกโฉมอ่างห้วยยาง จับมือกองทัพภาคที่ 2 ทุ่มงบฯ กว่า 30 ล้านบาท ดันเป็นทะเลน้ำจืด “บางแสนเมืองโคราช” แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเมืองย่าโม เนรมิตชายหาดสวยงามริมอ่าง เพิ่มพื้นที่สีเขียว เป็นปอดแห่งใหม่ของคนเมือง คาดเสร็จภายใน 6 เดือน ปีนี้เปิดให้บริการแน่

นายสมยศ รัตนปริยานุช นายกเทศมนตรีตำบลสุรนารี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้เทศบาลตำบลสุรนารีได้ร่วมกับกองทัพภาคที่ 2 เตรียมพลิกโฉมอ่างเก็บน้ำห้วยยาง (ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา) แหล่งน้ำเพื่อการเกษตร และพื้นที่ขนาดใหญ่ประมาณ 1,300 ไร่ โดยวางแผนจะปรับภูมิทัศน์และพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ รวมทั้งเป็นแหล่งออกกำลังกายและสันทนาการ โดยต้องการจะพัฒนาให้เป็นปอดแห่งใหม่ของเมืองโคราช ภายใต้แนวคิด “บางแสนเมืองโคราช” โดยปรับภูมิทัศน์ให้เหมือนทะเลน้ำจืดขนาดใหญ่ พื้นที่ริมอ่างให้เป็นหาดทรายขนาดใหญ่ มีต้นมะพร้าว ต้นไม้ร่มรื่น มีจุดสำหรับเล่นน้ำ นั่งพักผ่อน ร้านอาหาร

ทั้งนี้เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนทั้งที่อยู่ในตัวเมืองและใกล้เคียง รวมทั้งกลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ที่มีมากกว่า 20,000 คน ที่ต้องการจะพักผ่อนและไม่ต้องเดินทางไปไกลๆ

นอกจากนี้ ยังมีแนวความคิดจะแบ่งพื้นที่จำนวนหนึ่งมาสร้างเป็นสนามวอลเลย์บอลชายหาด เพื่อให้โรงเรียนต่างๆ มาแข่งขัน หรือมีการจัดการแข่งขันระดับโรงเรียน โดยบริเวณรอบๆ จะมีลานสำหรับการออกกำลังกาย มีเครื่องเล่น เครื่องออกกำลังกายต่างๆ ไว้บริการ ส่วนพื้นที่ว่างตามถนนในโครงการก็จะทำให้เป็นสวนเกษตรเรียนรู้ มีผักต่างๆ ของท้องถิ่น เช่น ผักกูด ผักกระถิน กะเพราบ้าน ฯลฯ ส่วนช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เปิดเป็นถนนคนเดิน และมี อปพร. คอยดูแลในเรื่องการรักษาความปลอดภัย

ปอดแห่งใหม่ – เทศบาลตำบลสุรนารี ร่วมมือกับกองทัพภาคที่ 2 เตรียมพลิกโฉมอ่างเก็บน้ำห้วยยางให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจใหม่ของจังหวัดนครราชสีมา โดยใช้งบประมาณกว่า 30 ล้านบาท และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2561

“ปัจจุบัน ชายหาดน้ำจืดในเขตจังหวัดนครราชสีมามีหลายแห่ง แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในอำเภอรอบนอก ซึ่งต้องใช้เวลาในการเดินทางและเสียค่าใช้จ่ายสูง อาทิ อ่างเก็บน้ำซับประดู่ อ.สีคิ้ว, หาดจอมทอง อ.ครบุรี และหาดชมตะวัน อ.เสิงสาง ดังนั้น อ่างเก็บน้ำห้วยยาง จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ที่ต้องการจะไปพักผ่อนได้อย่างประหยัด ต่อไปที่นี่จะเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของโคราช หากโปรโมตออกไป คนต่างจังหวัดก็อยากมาที่นี่ เหมือนไปบางแสน”

ส่วนบริการอื่นๆ อาทิ ร้านอาหาร เทศบาลจะมีการจัดระเบียบ ทั้งในเรื่องของความสะอาด ราคา ชุดฟอร์มของร้านค้า-หาบเร่ ขณะที่ห้องน้ำ-ห้องสุขาให้ชาวบ้าน ผู้สูงอายุ ในพื้นที่ผลัดกันไปดูแลและเก็บค่าใช้บริการเพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน

“คาดว่าจะใช้งบประมาณในการดำเนินการ ประมาณ 30 ล้านบาท ดำเนินการโดยกองทัพภาคที่ 2 และเทศบาลตำบลสุรนารี โดยจะทำการอนุมัติตามขั้นตอน หากได้งบฯ ก่อสร้างแล้วสามารถเริ่มก่อสร้างเสร็จภายใน 6 เดือน คาดว่าจะเปิดให้ประชาชนมาท่องเที่ยว พักผ่อนได้ภายในปี 2561 นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดที่จะมีการตัดถนนเส้นใหม่เชื่อมระหว่างอ่างห้วยยาง ไปยังวัดพระธาตุโป่งดินสอ ประมาณ 1.2 กิโลเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่มากราบไหว้พระ และสามารถแวะมาพักผ่อนที่อ่างห้วยยางได้” นายสมยศ กล่าว

ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์