“กฤษฎา” ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงทุจริตวัคซีนพิษสุนัขบ้า ขีดเส้นจบภายใน 30 วัน

“กฤษฎา” ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงทุจริตวัคซีนพิษสุนัขบ้า ขีดเส้นจบภายใน 30 วัน ชี้หากพบข้าราชการทุจริตจัดซื้อวัคซีนจะต้องได้รับโทษ สูงสุดจำคุก 10 ปี – ปรับ 20,000 บาท

นายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรฯจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องวัคซีนพิษสุนัขบ้าเรียบร้อยแล้ว โดยแต่งตั้งให้นายสุรพงษ์ เจียสกุล รองปลัดเกษตรฯ เป็นประธานกรรมการ อย่างไรก็ตามเพื่อให้คณะทำงานนี้มีความโปร่งใสมากที่สุด กระทรวงเกษตรฯ จึงได้เชิญผู้เกี่ยวข้องจากหลายหน่วยงานเข้าร่วมด้วย อาทิ ผู้อำนวยการกองคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย ผู้แทนจากสัตวแพทยสภา เป็นต้น มาเป็นคณะกรรมการครั้งนี้ด้วย โดยจะเริ่มดำเนินสอบสวนให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน

สำหรับเรื่องที่ต้องสอบสวนมีทั้งหมด 3 ข้อ ได้แก่ 1.ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องที่มีครอบครัวข้าราชการในกระทรวงเกษตรฯ เกี่ยวข้องในการจัดซื้อวัคซีนหรือไม่ 2.ตรวจสอบว่าวัคซีนที่นำออกไปฉีดไม่มีคุณภาพหรือหมดอายุจริงหรือไม่ และ3.ตรวจสอบขั้นตอนระหว่างกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงสาธารณสุข และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ถึงการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ เพื่อนำมาหารือถึงแนวทางแก้ไข และตรวจสอบว่ามีใครได้รับผลประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

“ครั้งนี้ผมได้เรียกทุกคนมาที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนทั้งหมด โดยกรณีอธิบดีกรมปศุสัตว์ละเลยการปฎิบัติหน้าที่หรือไม่ จะต้องทำการสอบสวนก่อน ซึ่งถ้าพบว่าผิดจริงจะมีโทษทั้งทางวินัยและอาญาส่วนเรื่องการที่กรมปศุสัตว์ผูดขาดซื้อวัคซีนจากบริษัทของภรรยานายไพโรจน์ เฮงแสงชัย อดีตรองอธิบดีกรมปศุสัตว์นั้น ได้สั่งให้ทางนายสุรพงษ์ รองปลัดฯสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง ซึ่งถ้าหากพบว่าภาครัฐมีความเสียหาย จะต้องมีคนได้รับโทษ”

ทั้งนี้ หากพบว่าข้าราชการกระทำความผิดจริงโดยเจตนา หรือเข้าองค์ประกอบมาตรา 157 ที่ระบุว่าผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ