เผยแพร่ |
---|
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายขับเคลื่อนและดำเนินงานแก่กรมปศุสัตว์ ที่โรงแรมอมารี ว่า กรมปศุสัตว์ได้รับงบประมาณกลางปีเพิ่มเติมปี 2561 เพื่อขับเคลื่อนโครงการไทยนิยม ยั่งยืน จากวงเงินงบประมาณรวมของกระทรวงเกษตรฯ 24,000 ล้านบาท ซึ่งกรมฯได้นำงบ 671 ล้านบาท ไปจัดทำ 3 โครงการ คือ1.โครงการเพิ่มทักษะอาชีพแก่เกษตรกรผู้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 12 ล้านบาท 2.โครงการศูนย์ขยายพันธุ์และส่งเสริมการผลิตปศุสัตว์ 140 ล้านบาท 3.โครงการสร้างทักษะและส่งเสริมด้านการเกษตร 518 ล้านบาท
นายกฤษฎา กล่าวว่า นโยบายที่เน้นย้ำ คือ การลงไปขับเคลื่อนตามแผนงานโครงการในพื้นที่ทั้ง 76 จังหวัด ทุกขั้นตอนต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ โดยเฉพาะการแจกพันธุ์สัตว์ การนำชาวบ้านมาอบรมวิธีการเลี้ยงและวิธีการทำการปศุสัตว์ ให้ประสานงานกับนายอำเภอ จากนั้นคัดเลือกเกษตรกรที่มีความพร้อมตามมติของที่ประชุมประชาคมของตำบลหมู่บ้านนั้นๆ
ส่วนโครงการบางส่วนที่เป็นการอบรมชาวบ้านแล้วจ่ายค่าอบรมให้วันละ 300 บาท ถ้าเป็นค่าอบรมเกิน 500 บาท ให้จ่ายผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)หรือธนาคารออมสินเท่านั้น แต่ถ้าต่ำกว่า 500 บาท จ่ายเป็นเงินสดได้ โดยต้องมีชาวบ้านด้วยกันมาเป็นพยานในการเซ็นรับเงิน ส่วนบางโครงการ เช่น การซื้อพันธุ์เป็ด ไก่ โค และแพะ มาแจกชาวบ้าน ต้องมีกรรมการตรวจรับพัสดุหรือครุภัณฑ์ตามกฎหมายว่าด้วยการพัสดุ
อีกทั้งทุกโครงการในงบกลางปี 2561 ให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ทำหนังสือเรียนไปถึงเลขาธิการ ปปท. ปปช. และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน โดยส่งรายละเอียดโครงการทั้ง 24,000 ล้านบาท ให้หน่วยตรวจสอบอิสระทราบ เพื่อส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมกำกับดูแลตั้งแต่เริ่มดำเนินการ เพื่อหากเกิดปัญหาหรือมีร่องรอยการทุจริตจะได้ตรวจสอบตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ และในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ จะมอบหมายให้ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ทั้ง 2 ท่าน ติดตามภาพรวม และมอบรองปลัดทั้ง 4 ท่านเป็นเลขานุการคณะติดตามงาน
นายกฤษฎา กล่าวถึงกระแสข่าวการโยกย้าย น.สพ. อภัย สุทธิสังข์ ออกจากตำแหน่งอธิบดีปศุสัตว์ ตนยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งโยกย้าย น.สพ.อภัย ไปดำรงตำแหน่งอื่นแต่อย่างใด