อัสสัมฯ ระยอง ตัดทิ้ง ต้นยาง 100 ปี อ้างอันตรายกับเด็ก รองอธิบดีป่าไม้ชี้ ทางออกเยอะแยะ ตัดทำไม

วันที่ 30 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้ กลุ่มผู้ปกครองนักเรียน และนักเรียน โรงเรียนอัสสัมชัญ จ.ระยอง ได้รวมตัวกันทางโซเชียล เพื่อร่วมคัดค้านการที่ผู้บริหารโรงเรียน ประกาศจะตัดต้นยาง ซึ่งเป็นไม้ใหญ่ต้นเดียวในโรงเรียนทิ้ง โดยอ้างว่า หากปล่อยเอาไว้ต้นไม้อาจจะหักโค่น หรือไม่ก็จะมีกิ่งไม้หักลงมาทำให้เด็กๆ ได้รับอันตรายได้ ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้เคยมีกิ่งไม้ตกลงมาใส่นักเรียนจนได้รับบาดเจ็บสาหัสมาแล้ว อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ปกครองได้พยายามเข้าไปขอร้องคณะผู้บริหารโรงเรียนว่า ให้ทบทวนแนวคิดดังกล่าวเสียใหม่ เพราะต้นยางนาต้นนี้มีมาก่อนโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนสร้างมา 55 ปี ต้นยางน่าจะมีอายุ ใกล้ๆ 100 ปี

ผู้ปกครองนักเรียน คนหนึ่ง กล่าวว่า โรงเรียนอัสสัมชัญ ระยอง และพื้นที่โดยรอบเป็นแหล่งที่มีต้นยางขึ้นมาก ทั้งข้างถนน และในสถานที่ราชการอื่นๆ เช่น ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) แต่ยังไม่มีที่ไหนคิดจะตัดต้นไม้เหมือนที่โรงเรียนเลย

“ทางกลุ่มผู้ปกครองเราแจ้งเรื่องนี้ไปทางท่านอธิการบดีคนเก่า ให้ช่วยพูดกับท่านอธิการบดีคนปัจจุบัน ว่า ให้ช่วยชะลอโครงการนี้ออกไปก่อน เพราะทราบว่า โรงเรียนจะตัดต้นไม้ทิ้งในช่วงปิดเทอมนี้ ซึ่งท่านอธิการบดีคนเก่าก็กรุณามาพูดให้ แต่ได้ความว่า ไม่ได้ผล ซึ่งพวกเราคิดว่า การตัดต้นไม้ใหญ่ขนาดนี้ทิ้ง เพราะกลัวต้นไม้จะเป็นอันตรายกับเด็กไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้องนัก น่าจะมีวิธีที่ดีกว่านี้” ผู้ปกครองคนเดิม กล่าว

นายอรรคพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ตามกฎหมายแล้ว ต้นยางต้นนี้อยู่ในโรงเรียน โรงเรียนมีสิทธิที่จะตัดได้ แต่ต้องขออนุญาตตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ตนเห็นต้นไม้แล้ว เป็นต้นไม้ใหญ่ที่สวยมาก ทั้งนี้ตนสั่งการให้ทางป่าไม้จังหวัดระยองเข้าไปพูดคุยกับทางผู้บริหารโรงเรียนแล้ว เพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ รวมทั้งให้ทางรุกขกรของกรมป่าไม้ลงพื้นที่หาวิธีจัดการตัดแต่งกิ่งไม้ และปรับปรุงบริเวณโคนต้น เพื่อไม่ให้บริเวณรากทึบเกินไป

“หากเขาจะตัดก็ตัดได้ แต่ผมคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในโรงเรียน ที่ควรจะทำให้เด็กๆ เห็นถึงการอนุรักษ์ดูแลต้นไม้ใหญ่ ควรปลูกฝังให้เด็กรักต้นไม้ มากกว่าการแก้ปัญหาโดยการตัดไม้ทิ้ง มันมีวิธีการตัดแต่งต้นไม้ วิธีการดูแลไม่ให้กิ่งก้านหักโค่น มาสร้างอันตรายให้คนรอบๆ ข้างอยู่ หากโรงเรียนทำเรื่องนี้ให้เด็กๆ เห็น ก็จะเป็นการสร้างการเรียนรู้เรื่องหลักการจัดการต้นไม้ในโรงเรียนให้เด็กๆ ได้รู้อีกด้วย” รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าว

ที่มา : มติชนออนไลน์