เผยแพร่ |
---|
กรมท่าอากาศยาน ชงคมนาคมไฟเขียวเปิดเอกชนร่วมทุน 3 สนามบิน บุรีรัมย์ เพชรบูรณ์ และโคราช เดือนเม.ย.นี้ คาดเปิดประมูลได้ต้นปี ’62 เตรียมรองรับการท่องเที่ยว-กีฬา-เชื่อมอีอีซี ส่วนสนามบินชุมพรรอถกร่วม ทอท. ทำสนามบินรับโครงการไทยแลนด์ริเวียร่า
นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เปิดเผยว่า ในเดือนเม.ย.นี้ ทย. จะเสนอเรื่องการพัฒนาสนามบินในภูมิภาค 3 แห่ง คือ บุรีรัมย์ เพชรบูรณ์ และนครราชสีมา รูปแบบการเปิดให้รัฐเอกชนร่วมลงทุน (พีพีพี) ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาอนุมัติ ทั้งนี้ หากกระทรวงคมนาคมเห็นชอบในหลักการจะว่าจ้างที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสมของโครงการ รวมทั้งรูปแบบการลงทุน กรอบวงเงิน และระยะเวลาในการให้สัมปทาน คาดว่าการศึกษาจะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน และเปิดประมูลได้ในช่วงต้นปี 2562
สำหรับสนามบินบุรีรัมย์นั้นจะพัฒนาเป็นสนามบินท่องเที่ยว (Tourism Airport) เนื่องจากมีจุดเด่นด้านกีฬาโดยเฉพาะการจัดการแข่งขันโมโตจีพี โดยเบื้องต้นเอกชนจะต้องลงทุนขยายความยาวทางวิ่ง (Runway) ให้ยาวกว่า 2,100 เมตร เพื่อให้สามารถรองรับเครื่องบินขนาดที่ใหญ่ขึ้น สอดคล้องกับกิจกรรมกีฬาภายในจังหวัดที่กำลังขยายตัว โดยจะแบ่งเฟสการขยายรันเวย์ออกเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรกจะขยายเป็น 2,500 เมตร และเฟสที่ 2 ขยายเป็น 3,000 เมตร ขึ้นอยู่กับความต้องการในการรองรับผู้โดยสาร
สนามบินบุรีรัมย์ยังมีที่ดินว่างเปล่าอีกหลายร้อยไร่ สามารถพัฒนาเชิงพาณิชย์สร้างเป็นโรงแรมรับนักกีฬาหรือนักท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้าขนาดเล็กรองรับความต้องการในท้องถิ่น เนื่องจากสนามบินตั้งห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ราว 30 กิโลเมตร
สำหรับสนามบินเพชรบูรณ์นั้น ตั้งอยู่ใกล้กับเขาค้อ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญและยังมีพื้นที่เหลืออีกหลายร้อยไร่จากทั้งหมด 2,000 ไร่ มีศักยภาพที่จะพัฒนาเป็นฐานของสายการบินพาณิชย์ สนามกอล์ฟ หรือรองรับการท่องเที่ยวเชิงกีฬาอื่นๆ เบื้องต้นเอกชนอาจจะต้องลงทุนขยายความยาวรันเวย์จาก 2,100 เมตร เป็น 2,500 เมตร เพื่อรองรับเที่ยวบินจากต่างประเทศ รวมไปถึงการขยายอาคารผู้โดยสารด้วย
ส่วนสนามบินนครราชสีมานั้น มีพื้นที่เหมาะกับการลงทุนเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) เพราะสามารถขนส่งอะไหล่มาจากระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้ง่าย แต่ยอมรับว่าต้องใช้เวลาผลักดันเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ในสนามบินนครราชสีมาอีกพอสมควร เพราะผู้โดยสารของกรมท่าอากาศยาน 50% ชื่นชอบทะเลและเดินทางไปภาคใต้ ส่วนอีก 35% เดินทางมาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และอีก 15% เดินทางไปภาคเหนือ
“ขณะนี้ยังไม่ทราบมูลค่าการลงทุนพีพีพี ของ 3 สนามบิน ต้องรอผลการศึกษาก่อน อีก 6 เดือน โดยถ้าเปิดประมูลเป็นสัญญาเดียวอาจมีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท แต่ถ้าหากประมูลแยกสัญญาคงไม่ถึง”
นายดรุณ กล่าวว่า เดิมกรมยังตั้งเป้าจะนำสนามบินชุมพรเปิด พีพีพี พร้อมกัน แต่ต้องชะลอแผนไปก่อน เนื่องจากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. พิจารณารับสนามบินหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หรือสนามบินชุมพร ของกรมท่าอากาศยานไปบริหาร เพื่อรองรับโครงการไทยแลนด์ริเวียร่าของรัฐบาล