ย้อนตำนาน “ผ้าไหมแพรวา” ภูมิปัญญาถักทอ “ชาวภูไท”

“แพรวา” หรือ “ผ้าไหมแพรวา” ถือเป็นผ้าทอมืออันที่เป็นเอกลักษณ์ของ “ชาวผู้ไทย หรือภูไท” ซึ่งเป็นชนกลุ่มหนึ่งที่มีถิ่นกำเนิดในบริเวณแคว้นสิบสองจุไทย แล้วอพยพเคลื่อนย้ายผ่านเวียดนาม ลาว แล้วข้ามฝั่งแม่น้ำโขง เข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่แถบเทือกเขาภูพานทางภาคอีสาน ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดกาฬสินธุ์ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทสานฟ้า ได้พากลุ่มบล็อกเกอร์ท่องเที่ยว พร้อม “แดเนียล เฟรเซอร์” พิธีกรฝรั่งหัวใจไทย และดาราหนุ่มชื่อดัง “เจมส์” กิจเกษม แมคแฟดเดน ร่วมทริป “หลงรักยิ้ม Cool Isan” ลงพื้นที่บ้านโพน ต.โพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นแหล่งผ้าแพรวาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศไทย

ชาวบ้านโพนยังคงรักษาวัฒนธรรมประเพณี ความเชื่อ การแต่งกาย และการทอผ้าไหมที่มีภูมิปัญญาในการทอด้วยการเก็บลายจากการเก็บขิดและการจก ที่มีลวดลายโดดเด่น ภูมิปัญญาที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ และได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ผ้าแพรวาจึงเปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มชนที่สืบเชื้อสายมาจากชาวภูไท

“ผ้าแพรวา” มีความหมายรวมกันคือ ผ้าทอเป็นผืนที่มีขนาดความยาว 1 วา หรือ 1 ช่วงแขน ใช้สำหรับคลุมไหล่หรือห่มสไบเฉียง หรือเรียกว่า ผ้าเบี่ยงของชาวผู้ไทย ซึ่งใช้ในโอกาสที่มีงานเทศกาล บุญประเพณี หรืองานสำคัญอื่นๆ โดยประเพณีทางวัฒนธรรมของหญิงสาวชาวภูไทจะต้องยึดถือปฏิบัติคือ ต้องตัดเย็บผ้าทอ 3 อย่าง คือ เสื้อดำ ตำแพร (การทอผ้าแพรวา) ซิ่นไหม

สิ่งที่สร้างความปลื้มปีติแก่ชาวบ้านโพนคือ ได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมจากโครงการศูนย์ศิลปาชีพพิเศษ ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งเสด็จฯ เยี่ยมพสกนิกรชาวอำเภอคำม่วง ในปี พ.ศ. 2520 ทอดพระเนตรเห็นชาวภูไท บ้านโพน แต่งตัวโดยใช้ผ้าแพรวาห่มตามแบบสไบเฉียง หรือเรียกว่า ผ้าเบี่ยง ทรงสนพระทัยมาก จึงโปรดให้มีการสนับสนุนการทำผ้าแพรวาและได้มีพระราชดำริให้ขยายหน้าผ้าให้กว้างขึ้น เพื่อที่จะได้นำไปใช้เป็นผ้าผืนสำหรับตัดเสื้อผ้าแบบอื่นได้

ทั้งยังมีการพัฒนาลวดลาย รูปแบบให้ทันสมัยและเหมาะสมตามความต้องการของตลาด

ความวิจิตรของลวดลายกว่าผ้าไหมลายอื่นๆ จนได้ชื่อว่า “แพรวา ราชินีแห่งผ้าไหม” นั้น เกิดจากการที่ผ้าแพรวานั้น มีลวดลายต่างกันถึง 60 ลวดลาย อาทิ แพรวา ลายเกาะ แพรวาลายล่วง (แพรวา 2 สี) นอกจากลายผ้าแล้วผู้ที่ชื่นชอบผ้าแพรวาก็ยังเลือกลาย ขนาด และแบบตามที่ชื่นชอบได้อีก อาทิ ผ้าสไบ 10 ลาย ผ้าสไบเล็ก ผ้าพันคอ ผ้าแพรวา 3 สี รวมทั้งผ้าปูกลางโต๊ะ ผ้ารองจาน ซึ่งเป็นการพัฒนามาจากผ้าแพรมน ที่เป็นผ้าพันผมเมื่อแต่งกายแบบบ้านโพนเต็มชุดนั่นเอง

Advertisement

ลวดลายของแพรวาจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับลายขิดของอีสาน แต่จะแตกต่างกันอยู่บ้างตรงความหลากหลายของสีสันในแต่ละลวดลาย แต่มีลักษณะอย่างหนึ่งที่เหมือนกันคือ ลายหลักมักเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของลายผ้า

ด้วยการใช้มือทอและใช้เวลานาน คงไม่ต้องแปลกใจที่ราคาผ้าจะสูงไปถึงหลักล้านบาท

Advertisement

“ล้ำเลอค่าด้วยภูมิปัญญาชาวภูไท”

พัชรพร องค์สรณะคมกุล

ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ข่าวสดรายวัน ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน 2561