ผู้เขียน | ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม |
---|---|
เผยแพร่ |
ชบนเนื้อที่ราว 1 ไร่เศษ ตั้งอยู่บนเนินควนนายเกี้ยว ริมถนนสายตรัง-ปะเหลียน ในพื้นที่หมู่ที่ 6 ตำบล ทุ่งกระบือ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง โกอ้วน-สมศักดิ์ อักษรกาญจน์ ในวัย 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200/48 หมู่ที่ 10 ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง หลังจากตัดสินใจหันมาทำฟาร์มเลี้ยงชะมดอย่างจริงจัง เพราะตลาดราคายางพาราและปาล์มน้ำมันผันผวนและต่ำลงอย่างต่อเนื่อง จึงตัดสินใจแปลงสภาพพื้นที่เพาะพันธุ์เลี้ยงลูกกุ้งหันมาทำฟาร์มเลี้ยงชะมด สร้างแบรนด์เป็นผลิตภัณฑ์ “กาแฟขี้ชะมดตรัง” หรือ Kopi Luwak ใช้เป็นพันธุ์มูสัง หรืออีเห็นข้างลายในแถบภาคเหนือ หรือมูสังหอม แถบภาคใต้ เป็นสัตว์ป่าไม่คุ้มครอง
โกอ้วน บอกว่า เริ่มศึกษาจากยูทูบ (youtube) และเรียนมาทางด้านเกษตรคิดว่าทำไม่ยากก็เลยเลี้ยงดู ไปค้นหาข้อมูลในยูทูบและราคาตลาดกาแฟตัวนี้ พบว่ามีรสชาติที่แตกต่างและมีราคาสูงก็เลยลองศึกษา มองถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการรสชาติที่แตกต่าง ซึ่งตนมองว่ามีรสชาติที่แตกต่างอาจจะถูกใจ ตอบโจทย์ลูกค้าคอกาแฟ กระทั่งวันนี้วางจำหน่ายเป็นของฝาก ตอนนี้ก็เป็นร้านตัวแทนใน จ.ตรัง ที่ร้านโรงกาแฟ “มาเจอนี่@ตรัง” และต้องดูควบคู่ไปกับเศรษฐกิจ ตั้งแต่เริ่มต้นเลี้ยงก็ต้องคัดเลือกพันธุ์ชะมด และนำมาผสมพันธุ์จนได้ขนาด ที่พอจะกินเมล็ดกาแฟสด (ลูกแดงๆ หรือเรียกว่าลูกเชอร์รี่)
โดยป้อนให้ชะมดกินเมล็ดกาแฟสดทั้งพันธุ์อาราบิก้าและโรบัสต้า สลับกับกล้วยสุก นม ผลไม้ที่มีกากใยและอื่นๆ เพื่อนำขี้ชะมดที่ได้มาสกัดเป็นกาแฟขี้ชะมดเมืองตรัง ซื้อจากชาวสวนคัดคุณภาพที่ปลอดสารเคมีแล้วนำมาให้ชะมดกิน เมื่อชะมดกินผลกาแฟสุกเข้าไปแล้ว กรดและเอนไซม์ในกระเพาะของชะมดจะทำปฏิกิริยาเคมีกับผลกาแฟลักษณะคล้ายกับการหมัก โดยกระเพาะจะย่อยเฉพาะเปลือกและเนื้อของเมล็ดกาแฟ เหลือแต่กะลากาแฟ (เปลือกเมล็ดกาแฟ) ที่ย่อยไม่ได้ แล้วก็ขับถ่ายออกมา จากนั้นจะไปเก็บขี้ชะมด แล้วแยกเอาเฉพาะเมล็ดกาแฟเก็บไว้ประมาณ 1 ปี แล้วนำไปทำความสะอาดแล้วตากให้แห้ง สุดท้ายก็นำมาคั่วจนได้เป็นเมล็ดกาแฟคั่วที่สมบูรณ์สามารถนำมาบดและชงดื่มได้ ขายกิโลกรัมละ 20,000 บาท
โกอ้วน ระบุว่า จากเมล็ดกาแฟสด 100 กิโลกรัม ที่ชะมดกินเข้าไป จะได้กาแฟคั่วไม่เกิน 5 กิโลกรัม ในแต่ละปีสามารถผลิตกาแฟขี้ชะมดได้ประมาณ 500 กิโลกรัม ขายกิโลกรัมละ 20,000 บาท สร้างรายได้นับสิบล้านบาท แนะเกษตรกรหันมาปลูกต้นกาแฟแทนการทำสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมัน ซึ่งตนมองว่าจะขายได้ทุกวันและได้ราคาดีกว่า เกษตรกรควรต้องปรับตัวในยุค “ไทยแลนด์ 4.0”
ไปคุยกับ “โกแต๋ว-สักขฉัฐ เชี่ยวภู่” เจ้าของร้านโรงกาแฟ “มาเจอนี่@ตรัง” ในฐานะผู้แทนจำหน่าย บอกว่า สำหรับคอกาแฟ การดื่มกาแฟขี้ชะมดถือว่าได้ลิ้มรสชาติกาแฟที่ถือว่าสุดยอดแล้ว รสชาติของกาแฟขี้ชะมดหอม กลมกล่อม ละมุนละไมและนุ่มลิ้นมาก หอมติดลำคอ
สร้างความกระปรี้กระเปร่าและชุ่มคอตลอดทั้งวัน ทำให้คอกาแฟนิยมดื่มกาแฟขี้ชะมด แม้จะมีราคาสูงกว่ากาแฟปกติทั่วไปก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกาแฟบางรายระบุว่ากาแฟที่เก็บจากมูลชะมดทำได้ยากกว่าเก็บจากต้น จึงทำให้กาแฟชนิดนี้มีราคาสูง จากเมล็ดกาแฟมาคั่วบดเราก็จะมาเสิร์ฟด้วยแก้วไวน์ เพราะเราจะได้ลิ้มรสชาติทั้งการชิมและจมูกจะได้รับกลิ่นความหอมความละมุนของกาแฟขี้ชะมดด้วย
โกแต๋ว ตบท้ายว่า ใน 1 เสิร์ฟ จะเสิร์ฟ 250 ซีซี ตอนนี้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เริ่มแรกจัดให้ลูกค้าชิม หลังจากนั้นก็มีการแนะนำเพื่อนๆ มาเปรียบเทียบกับจังหวัดอื่นๆ รสชาติก็สู้ที่อื่นได้ ส่วนราคาที่เราจะถูกกว่า เพราะเราต้องการให้คนตรังหรือคนที่มาเที่ยวเมืองตรังได้ลิ้มรสกาแฟขี้ชะมด แวะซื้อติดมือเป็นของฝากได้ด้วย
ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจาก ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม