ผู้เขียน | พันธุ์ แก้วนุ้ย |
---|---|
เผยแพร่ |
พื้นที่ ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี เป็นพื้นที่เทือกเขาสลับที่ราบสูง มีแหล่งน้ำลำห้วยสำคัญหลายสาย จึงเหมาะแก่การเพาะปลูก ประชาชนในพื้นที่ประกอบอาชีพทำนา ทำสวน ปัจจุบันเกษตรกรนิยมทำสวนผลไม้หลายชนิด มีทั้งเงาะ ทุเรียน กระท้อน ลำไย กล้วยหอม ลองกอง มังคุด และลิ้นจี่ โดยเฉพาะลิ้นจี่ยางหัก ออกผลดกแดงเต็มต้นใกล้จะเก็บเกี่ยว ซึ่งสวนลิ้นจี่ของเกษตรกรบางรายมีผลดก ขนาดใหญ่ รสชาติดี ซึ่งมาจากเทคนิค ภูมิปัญหา และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
ที่สวนลิ้นจี่ของ สุชาติ อิ่มวิญญาณ เกษตรกรวัย 51 ปี ตั้งอยู่พื้นที่บ้านไทยประจัน อยู่บ้านเลขที่ 108 หมู่ที่ 5 ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ เป็นอีกสวนที่มีผลผลิตดกแดงเต็มต้น หลังจากที่ผ่านมา สภาพอากาศค่อนข้างเปลี่ยนแปลงเกือบตลอดเวลาทำให้ลิ้นจี่ติดลูกยาก แต่ปีนี้กลับมีสภาพอากาศหนาวเย็นนาน อีกทั้งมีการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศบ่อยทั้งหนาว ร้อน เย็น ฝนตกในเดือนเดียวกัน ส่งผลให้ลิ้นจี่ติดลูกดกจำนวนมากกว่าทุกปี ทำให้เกษตรกรเริ่มยิ้มได้และเตรียมเก็บลิ้นจี่ขายเป็นผลไม้ชนิดแรกในเร็วๆ นี้
สุชาติ กล่าวว่า มีพื้นที่ประมาณ 16 ไร่ แบ่งส่วนหลายแปลง เพื่อปลูกผลไม้แบบผสมผสานกับผลไม้อีกหลายชนิด โดยใช้สมุนไพรไล่แมลงและศัตรูพืช โดยไม่ต้องพึ่งพาสารเคมี ทำให้ลดต้นทุนในการปลูก อีกทั้งมีรายได้จากการขายผลไม้ในสวนเกือบตลอดปี จากการปลูกผลไม้แบบผสมผสาน ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ามาช่วย โดยเฉพาะพริกแกงใต้ ถือเป็นสูตรพิเศษที่ใช้ได้ผลเกินคาด
“ที่สวนปลูกลิ้นจี่สายพันธุ์บางขุนเทียนก้านยาว ซึ่งจะมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว คล้ายส้มบางมด นำมาปลูกนานกว่า 10 ปีแล้วประมาณ 30 ต้น ส่วนการดูแลรักษาจะไม่ค่อยเหมือนใคร เพราะใช้น้ำพริกแกงใต้ที่ซื้อมาจากท้องตลาดทั่วไป นำมาผสมกับน้ำ และน้ำหมักสมุนไพรต่างๆ เช่น ผลลิ้นจี่ที่เคยเสียหล่นจากปีที่แล้วลูกไม่ค่อยสวยนำมาหมักใส่ถังผสมกับพริกแกงใต้ที่ทำมาจากการใส่ขมิ้น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก กระเทียม เป็นส่วนผสมของเครื่องพริกแกงเผ็ดมีประโยชน์ คือความเผ็ด จากนั้นนำมาผสมน้ำแล้วฉีดพ่นประมาณ 7 วัน เพื่อไล่แมลงศัตรูพืชได้ดี ถ้าอยากบำรุงลูกให้ใส่ผงชูรสเข้าไปผสมกับน้ำด้วย จะทำให้ลิ้นจี่มีผลดกและขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม จากวิธีดังกล่าวพบว่าเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ปีนี้ดีกว่า ทำให้ลิ้นจี่ติดลูกเยอะขึ้น สำหรับผลผลิตส่วนมากไม่ได้ส่งขายที่ไหน แต่ขายเพื่อน หรือคนที่มาชมและชิมในสวน ซึ่งจะมีเพื่อนจากต่างจังหวัดแวะมาเที่ยว และมาชิมลิ้นจี่ถึงสวน หลายคนจะชิมสวนลิ้นจี่ได้ทุกต้น ต้นไหน รสชาติดีชอบก็สามารถเก็บจากต้นด้วยตัวเองไปชั่งกิโลขายกันในราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป
นอกจากนี้ยังสามารถเที่ยวชมต้นลิ้นจี่ เด็ดชิมสดๆ จากสวนและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก รวมทั้งสามารถแชร์บอกเพื่อนต่อๆ กันไปได้ว่าที่ตำบลยางหัก มีลิ้นจี่คุณภาพดี แถมราคาถูก สามารถชิมรสชาติลิ้นจี่สดๆ จากต้น”
สุชาติ กล่าวอีกว่า สำหรับลื้นจี่ที่ให้ผลแล้ว เมื่อเริ่มมีลักษณะแดงระเรื่อแล้ว ต้องใช้เวลารอคอยประมาณ 27 วัน จึงจะสามารถเก็บผลผลิตรับประทานได้และมีรสชาติหวานกรอบ หากมาเที่ยวในช่วงนี้ ลิ้นจี่จะมีรสชาติหวานกรอบอมเปรี้ยวนิดหน่อย หรือหากจะชิมรสชาติหวานอร่อยกว่านี้ ขอให้มาชม ชิมกันได้ประมาณวันที่ 27 เมษายน เป็นต้นไป โดยมีระยะเวลาเก็บเกี่ยวประมาณ 2 สัปดาห์ หรือ 15 วันเท่านั้น ในการเก็บผลผลิตได้คุณภาพดีเต็มที่
ด้าน อนุสรณ์ ฤทธิ์ล้ำ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านไทยประจัน กล่าวว่า ทุกๆ ปี นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยว ชิม ช็อป แชะ ผลไม้หลากหลายในตำบลยางหัก ปีนี้มีอีกหนึ่งผลไม้ที่ออกผลผลิตได้ยอดเยี่ยมนั่นคือลิ้นจี่ เป็นผลมาจากปีนี้สภาพอากาศดี ทั้งเรื่องฝน อากาศหนาวที่มาเร็ว ทำให้ลิ้นจี่ติดลูกดกมากหลายๆ สวน รสชาติลิ้นจี่ที่ตำบลยางหัก จะเน้นผลล่อนและแห้ง แต่รสชาติอมเปรี้ยวเล็กน้อย เนื่องจากพื้นที่ปลูกเป็นสภาพภูเขา ส่วนเรื่องความปลอดภัยจากสารเคมีนั้นการันตีร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะตำบลยางหักจะเน้นหนักเรื่อง น้ำหมักชีวภาพ หรือปุ๋ยหมักคุณภาพสูงที่ทำขึ้นเองนำมาใช้ในครัวเรือน เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่คิดค้น ขึ้นมาทำน้ำหมัก พริกแกงเผ็ด พริกแกงป่า พริกแกงใต้ มีความเชื่อว่าในพริกแกง หรือพริกแกงใต้นั้น มีสรรพคุณทั้ง ขมิ้น พริก ตะไคร้ ข่า ในส่วนนี้กรมวิชาการเกษตรเคยแนะนำเกษตรกรใช้หมักเพื่อนำไปไล่แมลงอยู่แล้ว จึงนำน้ำพริกแกงมาฉีดพ่นกลายเป็นผลดีของชาวสวนที่นี่
“ฝากนักท่องเที่ยว นอกจากนี้เดินทางมาพักผ่อนเที่ยวน้ำตก และเที่ยวชมธรรมชาติที่สวยงามภายในอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจันแล้ว ยังสามารถเที่ยวชม ชิมลิ้นจี่จากสวนของชาวบ้านได้เกือบทุกต้น และยังถ่ายภาพกับต้นลิ้นจี่ที่มีลูกแดงเต็มต้น สามารถเพลิดเพลินกับวันหยุดพักผ่อน สังเกตได้ว่าลิ้นจี่ต้นไหนที่มีเปลือกค่อนข้างสีแดงเข้ม นั่นหมายถึงลักษณะใกล้แก่เต็มที่แล้ว จะมีรสชาติหวาน ล่อน หากถูกใจแล้วค่อยซื้อกลับไปรับประทานหรือเป็นของฝากให้แก่เพื่อนๆ ญาติสนิทในราคาถูกแถมปลอดภัยเพราะใช้สมุนไพรจากธรรมชาติ”
หากสนใจมาเที่ยว สวนลิ้นจี่บ้านไทยประจัน ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ ใช้เส้นทางจากอำเภอปากท่อ มุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน หรือสอบถามโทร. (084) 737-6615
ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจาก พันธุ์ แก้วนุ้ย