เตือนผู้ป่วยจิตเวช ดื่ม “ม้ากระทืบโรง” เสี่ยงกำเริบจากหายดีเป็น “ป่วยซ้ำ”

น.ต.นพ. บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ตนได้รับรายงานจากผู้อำนวยการ รพ.จิตเวชนครพนมฯ ว่า ขณะนี้พบผู้ป่วยจิตเวชที่รักษาจนอาการหายดีหรือทุเลาที่แพทย์ให้กลับไปอยู่บ้านแล้ว ญาติต้องนำกลับมารักษาที่ห้องฉุกเฉินซ้ำอีก เนื่องจากมีอาการกำเริบ เช่น ประสาทหลอน      หูแว่ว เอะอะ ก้าวร้าว เป็นต้น พบสัปดาห์ละ 1-2 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สาเหตุเกิดมาจากผู้ป่วยดื่มยาบำรุงร่างกายแผนโบราณ ซึ่งฉลากระบุว่ามีสมุนไพรหลายชนิดเป็นส่วนผสม ทำให้ผู้ป่วยเข้าใจผิดว่าเป็นยาบำรุงร่างกายทั่วไป ดื่มแล้วทำให้ร่างกายแข็งแรง มีกำลังในการทำงานไม่เหนื่อย จึงได้ให้ รพ.จิตเวชนครพนมฯ ประสานอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่ผ่านการอบรมเป็น อสม.เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตชุมชนจากกรมสุขภาพจิต เร่งให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ผู้ป่วยจิตเวชและญาติรวมทั้งประชาชนในพื้นที่ด้วย

นพ. กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการ รพ.จิตเวชนครพนมราชนครินทร์ กล่าวว่า ยาบำรุงร่างกายตามตำรับยาแผนโบราณเป็นภูมิปัญญาไทยที่ได้จากการนำแอลกอฮอล์หรือเหล้ามาหมักกับสมุนไพรเพื่อสกัดเป็นตัวยา มีสรรพคุณตามฤทธิ์ของสมุนไพร เช่น บำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง บำรุงโลหิต ช่วยเจริญอาหาร แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย โดยยาแผนโบราณที่ผู้ป่วยจิตเวชนำมาดื่มและทำให้มีอาการกำเริบนั้น มีผลการตรวจของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในปี 2558 พบมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงและไม่ได้แสดงปริมาณแอลกอฮอล์ไว้บนฉลากยาอย่างชัดเจน ระบุแต่เพียงชื่อสมุนไพรเป็นส่วนประกอบ เช่น ม้ากระทืบโรง กำลังเสือโคร่ง เป็นต้น เมื่อผู้ป่วยจิตเวชดื่มเข้าไปจึงเท่ากับดื่มแอลกอฮอล์หรือดื่มเหล้าเข้าไป ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะไปกระตุ้นสมองผู้ป่วยโดยตรง มีผลต้านกับฤทธิ์ของยาที่แพทย์ใช้ในการควบคุมอาการ ทำให้การรักษาไม่ได้ผล แพทย์จึงห้ามผู้ป่วยโรคจิตเวชทุกโรคไม่ให้ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมทุกชนิดรวมทั้งยาดองเหล้าสมุนไพร และสารเสพติดอื่นๆ ที่เป็นสารกระตุ้นสมอง โดยเฉพาะยาบ้า

ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน