กรมกิจการผู้สูงอายุ ชวนผู้สูงอายุบริจาคเบี้ยชรา

นางธนาภรณ์ พรมสุวรรณ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า จากการที่ ผส.ได้รณรงค์เชิญชวนให้ผู้สูงอายุร่วมโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้กับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย โดยเปิดโครงการให้ร่วมตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าขณะนี้มีเพียง 400 คน เท่านั้นที่ร่วมบริจาค จากที่ตั้งเป้าหมายไว้ 50,000 คน ทั้งนี้ เป้าหมาย 50,000 คน ที่เป็นเป้าหมาย เป็นการคำนวณจากผู้สูงอายุที่มาลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพ มีประมาณ 8 ล้านคน จากจำนวนผู้สูงอายุทั้งหมดที่มีประมาณ 11 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุที่ไปลงทะเบียนรับสวัสดิการแห่งรัฐ 3.6 ล้านคน ซึ่งหมายถึงอีกประมาณ 5 ล้านคน น่าจะไม่ได้อยู่ในเกณฑ์คนจนที่รับสวัสดิการก็สามารถบริจาคได้ โดยประมาณเป้าหมายเพียง ร้อยละ 1 จาก 5 ล้านคน ก็ประมาณ 5 หมื่นคน ที่น่าจะบริจาคได้ แต่ช่วงที่ผ่านมา ผส. กระทรวงมหาดไทย รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็พยายามเชิญชวนประชาสัมพันธ์ แต่ช่วง 4 เดือน ที่ผ่านมา มีผู้มาร่วมบริจาคเพียง 400 คน เท่านั้น ถือว่าน้อยมาก สาเหตุคิดว่าทุกคนอาจจะคิดว่าเป็นสิทธิที่จะได้ และการนำไปบริจาค ผู้สูงอายุก็อาจจะอยากตัดสินใจด้วยตนเอง ถ้าหากบริจาคด้วยการไม่รับเบี้ยยังชีพเงินดังกล่าวจะเข้าไปสู่กองทุนผู้สูงอายุเพื่อนำไปใช้สมทบช่วยเหลือผู้สูงอายุยากจนที่รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นอกจากนี้ คาดว่าข้อมูลข่าวสารอาจจะไปไม่ถึง ผู้สูงอายุไม่รู้ช่องทางบริจาคอย่างไร หรือบางคนได้รับเงินผ่านบัญชีทุกเดือนก็ไม่ได้สนใจที่จะบริจาค ซึ่ง ผส.ก็พยายามสื่อสาร ทำเป็นคลิปเชิญชวน ก็อยากจะฝากเชิญชวนผู้สูงอายุที่คิดว่าเงินส่วนนี้อาจจะไม่ได้ใช้อะไร ก็สามารถนำไปบริจาค หากบริจาคเป็นจำนวน 12 เดือน หรือครบ 1 ปี จะได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติเป็นเหรียญพระคลัง ผลิตโดยกรมธนารักษ์

อธิบดี ผส. กล่าวด้วยว่า เฉลี่ยแต่ละปีรัฐต้องจัดสรรงบประมาณเป็นจำนวนถึง 64,000 ล้านบาท เพื่อเบิกจ่ายเป็นเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนไว้ จำนวน 8 ล้านคน ถือว่าเป็นภาระที่หนักมาก และอนาคตผู้สูงอายุจะมีสัดส่วนที่เพิ่มมากขึ้น การจัดสรรเบี้ยยังชีพก็จะเป็นภาระรัฐเพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็ต้องพยายามหาช่องทางให้ผู้ทีบริจาคช่วยเหลือผู้ที่ยังต้องการความช่วยเหลือ ซึ่ง ผส. คงต้องประชาสัมพันธ์เชิงรุกมากขึ้น