พาณิชย์จับมือสหกรณ์เกษตรกร-ผู้ประกอบการ ชู”ข้าวกข43″ ทางเลือกผู้บริโภครักสุขภาพ

พาณิชย์ จับมือสหกรณ์ ผู้ประกอบการ เซ็นเอ็มโอยูรับซื้อ “ข้าวกข43” หวังช่วยสร้างความมั่นใจมีช่องทางการขายข้าว พร้อมสร้างการรับรู้ประโยชน์ให้ผู้บริโภค เหตุเป็นข้าวที่ดีต่อสุขภาพ น้ำตาลน้อย เป็นทางเลือกกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน และโรคไต

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการเชื่อมโยงและรับซื้อข้าว กข43 และผลิตภัณฑ์น้ำนมข้าว โดยมีนายประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร่วมเป็นสักขีพยาน ร่วมกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงนามร่วมระหว่างสหกรณ์เกษตรกรและผู้ประกอบการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรว่าสินค้าเกษตรมีตลาดรองรับอย่างแน่นอน ซึ่งทั้งแบบครบวงจรทั้งระบบตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง รวมทั้งส่งเสริมให้บริโภคข้าว กข43 และผลิตภัณฑ์น้ำนมข้าว มากขึ้น

สำหรับการเชื่อมโยงการรับซื้อข้าว กข43 ระหว่างผู้ประกอบการแปรรูปข้าว ได้แก่ ผู้ประกอบการจำนวน 7 ราย รับซื้อข้าวจากสหกรณ์การเกษตร ผู้ผลิตข้าว กข43 จำนวน 8 ราย ปริมาณผลผลิต 1,121 ตันข้าวเปลือก และเชื่อมโยงระหว่าง ผู้ประกอบการแปรรูปข้าว กข43 ทั้ง 7 ราย กับผู้ประกอบการ โมเดิร์นเทรด จำนวน 4 ราย ได้แก่ เทสโก้โลตัส บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เดอะมอลล์ กรุ๊ป และเซ็นทรัลฟูดส์ เพื่อวางจำหน่ายข้าว กข43 โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ

โดยราคาจำหน่าย อยู่ที่ราคา 60 บาทต่อกก. เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นไป พร้อมจะประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้แก่ผู้บริโภค ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม – กรกฏาคม 2561 ผ่านช่องทางการประชาสัมพันธ์ต่างๆ ด้วยถึงประโยชน์ที่จะได้รับ

นอกจากนี้ จะผลักดันให้มีการแปรรูปข้าวเป็นผลิตภัณฑ์น้ำนมข้าวที่เป็นเครื่องดื่มสุขภาพ สำหรับผู้บริโภคที่แพ้นมวัวและนมจากพืชตระกูลถั่ว โดยจะเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาแปลงใหญ่

“จะมีวิสาหกิจชุมชนกลุ่มทำนาประณีตข้าวอินทรีย์ศรีสำราญ และผู้ประกอบการแปรรูปผลิตภัณฑ์น้ำนมข้าว จำนวน 7 ราย และโมเดิร์นเทรด จำนวน 5 ราย เพื่อให้มีผลิตภัณฑ์น้ำนมข้าว ที่ซื้อวัตถุดิบจากกลุ่มเกษตรกรในราคานำตลาด โดยมีแผนจะนำออกสู่ตลาดในเร็วๆ นี้”

ทั้งนี้ ข้าว กข43 เป็นพันธุ์ข้าวที่กรมการข้าว ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการศึกษาวิจัยและพบว่ามีค่าการแตกตัวเป็นน้ำตาลน้อย และมีค่าดัชนีน้ำตาลอยู่ในระดับปานกลางค่อนข้างต่ำ คาร์โบไฮเดรตของข้าวมีลักษณะที่ทนต่อการย่อยได้ดีกว่าข้าวอมิโลสต่ำพันธุ์อื่น จึงถือเป็นข้าวทางเลือกของผู้ใส่ใจสุขภาพกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคไต โดยกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีการบูรณาการร่วมกันในการดำเนินการภายใต้แผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร

โดยในปีการผลิต 2560/61 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้คัดเลือกสหกรณ์ที่มีศักยภาพ วางแผนการผลิตภายใต้ระบบนาแปลงใหญ่ นาปีมีผลผลิตรวม 50 ตันข้าวเปลือก หรือ 20 ตันข้าวสาร สำหรับนาปรังมีผลผลิตรวมประมาณ 1,643 ตันข้าวเปลือก หรือ 657 ตันข้าวสาร สำหรับเป้าหมายฤดูนาปี ในปีการผลิต 2561/62 ผลผลิตรวมประมาณ 50,000 ตันข้าวเปลือก หรือ 20,000 ตันข้าวสาร

รวมทั้งกำหนดการรับรองบนบรรจุภัณฑ์ ข้าว กข43 โดยใช้เครื่องหมายรับรองข้าวพันธุ์แท้ เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์และหลักประกันแก่ผู้บริโภคว่าเป็นข้าวที่มีคุณภาพได้การรับรองจากกรมการข้าว โดยให้เมล็ดพันธุ์ไปปลูกโดยกลุ่มชาวนาที่ขึ้นทะเบียนนาแปลงใหญ่กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้การดูแลของสหกรณ์ที่เป็นสมาชิก สีแปรโดยสหกรณ์หรือโรงสีข้าวที่ได้รับมาตรฐาน GMP และข้าวสารได้รับการรับรองมาตรฐาน Q สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ (Traceability) โดยระบบ QR Trace เมื่อผู้บริโภคสแกน QR Code จะทราบถึงข้อมูลแหล่งที่มาของข้าวได้

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์