มีไอเดีย มีโอกาส ความเฟื่องฟูของสตาร์ตอัพไทยปี3

มีไอเดีย มีโอกาส
ความเฟื่องฟูของสตาร์ตอัพไทยปี3

เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว ที่ธุรกิจสตาร์ตอัพค่อยๆ เจริญเติบโตในประเทศไทยแม้จะยังไม่แพร่หลาย กระจายให้ทุกคนได้รู้จัก และเข้าร่วมแต่การเจริญเติบโตอย่างก้าวกระโดด

เริ่มจากการเรียนรู้ของผู้คนในการทำธุรกิจชนิดนี้ ตั้งแต่ปี 2559 มูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 4 พันล้านบาท กระทั่ง ปี 2561 เหล่าบรรดาสตาร์ตอัพหน้าใหม่ๆ ปรากฏตัวโลดแล่นภายในวงการธุรกิจมากขึ้น มูลค่าการลงทุนร่วมค่อยๆ ไต่ระดับ จนก้าวกระโดดไปที่ตัวเลข 30,000 ล้านทันที

ตัวอย่าง ถ้าเราทำรถเข็นขายไก่ทอด แล้วลงทุนสร้างรถเข็นเพิ่มไปเรื่อยๆ กิจการก็เติบโตไปตามจำนวนเงินลงทุนและรถเข็นที่เพิ่มขึ้น แบบนี้ยังไม่ถือเป็นสตาร์ตอัพ แต่เมื่อใดที่เราทำแอพพลิเคชั่น Kai Tod เพื่อให้คนสามารถสั่งไก่ทอดของเราล่วงหน้าได้ แล้วจับคู่กับแม่ค้า พ่อค้าไก่ทอดเจ้าอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ๆ ที่ทำงานหรือบ้านคนสั่ง พ่อค้าแม่ค้าไก่ทอดรับคำสั่งผ่านแอพพลิเคชั่น และจ่ายเงินผ่านแอพพ์ พอทำเสร็จคนก็เข้ามาดาวน์โหลดไปใช้ จนใครๆ ก็นิยมมาสั่งไก่ทอดผ่านแอพพ์ของเรา พ่อค้าก็อยากขายไก่ทอดผ่านแอพพ์นี้

เราแค่ลงทุนลงแรงทำแอพพ์ตัวเดียว แต่กลายเป็นตัวแทนขายไก่ทอดได้ทั่วประเทศ จะขยายไปประเทศอื่นก็ไม่ยาก เป็นการเติบโตที่สามารถขยายขนาดได้ด้วยต้นทุนนิดเดียว แบบนี้เองที่เป็นธุรกิจสตาร์ตอัพ

ซึ่งทุกวันนี้ นอกเหนือจากไก่ทอดแล้ว มีทั้งสินค้า และบริการหลายร้อยชนิดที่อาศัยวิธีการแห่ง สตาร์ตอัพ จุดสำคัญที่สตาร์ตอัพต่างจากธุรกิจแบบเดิมๆ คือมันอาศัยโมเดลทางธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาแย่งชิงตลาดของธุรกิจเดิม หรือบางครั้งถึงขั้นทำลายล้างรูปแบบเดิมไปตลอดกาล

เช่น สมัยก่อนเราจะไปเที่ยวจะจองโรงแรมจองตั๋วเครื่องบิน ก็ต้องไปติดต่อเอเยนต์หรือบริษัททัวร์ ให้พวกนั้นจองให้ แต่สมัยนี้เราสามารถจองโรงแรม หรือหาตั๋วถูกๆ ผ่านเว็บได้เอง

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ที่เดิมทีถือเป็นหน่วยงานที่ทำงานด้านสังคม แต่เนื่องจากต้องดูแลงานว่าด้วยเรื่องเทคโนโลยี และนวัตกรรม จึงต้องเป็นหน่วยงานหลักที่ต้องคอยสร้างโอกาส อำนวยการและสนับสนุนเหล่าบรรดาสตาร์ตอัพเต็มรูปแบบ

เพราะธุรกิจสตาร์ตอัพจำเป็นต้องใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นหลัก

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรี วท.บอกว่า หน้าที่ของรัฐบาล นับแต่นี้คือ การสร้างโอกาสให้มีสตาร์ตอัพหน้าใหม่เพิ่มมากขึ้น เพิ่มเครื่องมือที่ทำให้สตาร์ตอัพที่มีอยู่เดิมมีศักยภาพที่เข้มแข็ง มีพลังและแรงบันดาลใจในการผลิตงานในรูปแบบที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

วันนี้เรามีสตาร์ตอัพอยู่ราวหมื่นกว่าเจ้า เป็นสตาร์ตอัพที่มีศักยภาพอยู่ราว 1,500 ราย ใน 9 หมวดสาขาธุรกิจ ประกอบด้วย เทคโนโลยีด้านการศึกษา การเกษตร สุขภาพ อุตสากรรม ธุรกิจการบริการ การเงิน ไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยว และอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้บริษัทขนาดใหญ่ก็มีการเปิดกว้าง และร่วมลงทุนกับบริษัทสตาร์ตอัพมากขึ้นเรื่อยๆ คิดเป็นมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท

มีแหล่งบ่มเพาะเหล่าสตาร์ตอัพเกิดขึ้น ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ระบบนิเวศ สตาร์ตอัพ (Startup Ecosystem) ของไทยถือได้ว่ามีการเติบโตแบบติดจรวด เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก เริ่มดึงดูดสตาร์ตอัพและนักลงทุนต่างประเทศเข้ามา

ซึ่งก้าวต่อไป เราตั้งเป้าว่าสตาร์ตอัพจะเข้ามามีบทบาทพัฒนาและเปลี่ยนแปลงการทำงานของภาคเอกชน มีการนำนวัตกรรมเข้ามาพัฒนาองค์กรให้ก้าวหน้าขึ้น ความสนใจของสตาร์ตอัพจะหันมาสู่เทคโนโลยีขั้นสูง (Deep Tech) ที่สามารถเปลี่ยนแปลงวงการต่างๆ ที่จำเป็นต่อความเป็นอยู่ในประเทศไทย พัฒนาอุตสาหกรรมหลักของประเทศให้ก้าวหน้าขึ้นไป นั่นคือความคาดหวังที่จะเกิดขึ้นในก้าวต่อไปของสตาร์ตอัพŽ รัฐมนตรี วท.กล่าว

การสร้างโอกาสให้สตาร์ตอัพหน้าใหม่ และการเติมพลังให้สตาร์ตอัพที่มีอยู่เดิม ที่รัฐมนตรี วท.กล่าวมานั้น หมายถึงการออกกฎหมายฉบับใหม่ที่แยกมาจากกฎหมายเอสเอ็มอีขึ้นมา เพื่อสนับสนุน และอำนวยความสะดวก แก่การทำธุรกิจสตาร์ตอัพ เพราะว่าที่ผ่านมา มีข้อจำกัดทางกฎหมายที่ยังเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของธุรกิจนี้ เช่น เรื่องการเข้าถึงเงินทุน ซึ่งการเข้าถึงเงินทุนของธุรกิจสตาร์ตอัพ และธุรกิจเอสเอ็มอีจะแตกต่างกัน เป็นต้น เนื้อหาในร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สตาร์ตอัพนั้น

มี 4 ประเด็นหลัก คือ 1.ทำอย่างไรให้สามารถก้าวเข้ามาทำธุรกิจสตาร์ตอัพได้ง่าย โดยเฉพาะผู้ประกอบการจากต่างประเทศ 2.ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจสตาร์ตอัพเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่าย 3.ส่งเสริมให้มีการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด ให้ผู้ลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาร่วมเป็นหุ้นส่วนได้ง่ายขึ้น และ 4.ส่งเสริมการขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ เช่น การฝึกอบรมทักษะการเจรจาธุรกิจ เป็นต้น

ระหว่างวันที่ 17-20 พฤษภาคม วท.จะจัดงาน STARTUP THAILAND 2018 ขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นงานที่จะรวบเอางานของสตาร์ตอัพที่ใหญ่และประสบความสำเร็จในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มากกว่า 400 เจ้า มีเทคโนโลยีและนวัตกรรม เกือบทุกสาขา ที่มาแสดงเพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่ทุกคนที่มาร่วมงาน ภายใต้ธีมงานที่ว่า โอกาสที่ไม่สิ้นสุดของทุกคนŽ นอกจากนี้จะได้พบกับวิทยากรระดับโลกที่จะมาร่วมแชร์ประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจสตาร์ตอัพ รวมทั้งการค้นหาสุดยอดสตาร์ตอัพของประเทศไทย ชิงเงินรางวัลกว่า 1 ล้านบาท

เตรียมพร้อมรับอาชีพในอนาคต

เตรียมตัวก่อน ย่อมได้เปรียบ

ออกเดินก่อน ย่อมมีโอกาสไปถึงเส้นชัยก่อน..