หวั่น 3 สินค้าเกษตรราคาตกเร่งแก้ ลำไยล้นอินโดฯ งดนำเข้า-กุ้งฮวบ ขอชดเชย 20 บ.

รมว.เกษตรฯ ห่วง 3 สินค้าเกษตร ลำไย ลิ้นจี่ และกุ้ง ราคาปรับตัวลดลง โดยเฉพาะลำไยผลิตกว่า   1 ล้านตัน ล้นตลาด อากาศทำออกดอกผลเยอะ แถมอินโดนีเซีย ประกาศงดนำเข้า ก.ค.-ส.ค. นี้ แต่ลิ้นจี่โดนฝนคุณภาพลด ชมรมผู้เลี้ยงกุ้งร้องรัฐแก้ราคาตก 3 ข้อ ชดเชยส่วนต่าง 10-20 บาท ต่อกิโลกรัม

แหล่งข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์  สั่งการให้ นายลักษณ์ วจนานวัช รมช.เกษตรฯ เป็นประธานประชุมรับมือ 3 สินค้าเกษตร คือ ลำไย ลิ้นจี่ และกุ้ง ที่น่ากังวลราคาจะปรับตัวลดลง ลำไย พบว่าในปีนี้จะมีผลผลิตรวม 1.06 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4.08%  เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลมาจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการติดดอกออกผล รวมทั้งลำไยที่ปลูกใหม่ในปี 2558 เริ่มให้ผลในปีนี้ โดยผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม

นอกจากนี้ อินโดนีเซีย ออกประกาศมาตรการห้ามนำเข้าลำไยในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2561 ส่งผลกระทบในการส่งออกลำไยสดไทยในตลาดนี้ด้วย ด้าน ลิ้นจี่ ช่วงนี้พื้นที่ปลูกประสบความเสียหายจากพายุฤดูร้อน ส่งผลให้ผลลิ้นจี่แตกคุณภาพลดลง และขายได้ราคาทีลดลง

“เพื่อลดผลกระทบ กระทรวงเกษตรฯ ได้เตือนภัยล่วงหน้า สินค้าลำไยในช่วงเวลาดังกล่าว และประเมินปริมาณผลผลิตเป็นรายเดือนและรายจังหวัด คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม รวมทั้งให้เกษตรจังหวัดประเมินปริมาณและมูลค่าความเสียหายของลิ้นจี่ ที่เกิดจากพายุฤดูร้อน และแจ้งประสานกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือเกษษตรกรต่อไป”

ส่วนกุ้ง ชมรมเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดสงขลา-นครศรีธรรมราช เรียกร้องให้แก้ไขปัญหาราคากุ้งตกต่ำและต้นทุนการผลิตสูง โดยยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลช่วยเหลือ 3 ข้อ 1. จัดหาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ โดยให้ภาครัฐชดเชยดอกเบี้ย 2. จัดทำโครงการรักษาเสถียรภาพราคากุ้ง โดยใช้เงินจากกองทุนคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) กระทรวงพาณิชย์ โดยชดเชยส่วนต่างราคา 10-20 บาท ต่อกิโลกรัม (ก.ก.) ไม่น้อยกว่า 10,000 ตัน อย่างน้อย 3 เดือน 3. ให้ลดต้นทุนการผลิตโดยปรับลดราคาปัจจัยการผลิต เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าอาหารกุ้ง เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม นยกฤษฎาพิจารณาแล้วเห็นว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายจะรับจำนำสินค้าเกษตร และสั่งการให้กรมประมงดำเนินการร่วมกับภาคเอกชนเพื่อรับซื้อกุ้งในราคานำตลาด จำนวน 10,000 ตัน ซึ่งได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว

ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจากข่าวสด