กรมส่งเสริมสหกรณ์ เตรียมแผนรับมือ ลำไยล้นตลาด หลังอินโดนีเซียระงับนำเข้าลำไยจากไทย

กรมส่งเสริมสหกรณ์ ปรับแผนเตรียมรับปัญหาลำไยล้นตลาด เล็งคัดลำไยคุณภาพ 3,000 ตัน มูลค่า 90 ล้านบาท ใช้กลไกสหกรณ์เร่งกระจายสู่ผู้บริโภคภายในประเทศ สั่งซื้อโดยตรงที่สหกรณ์และสั่งซื้อผ่านไปรษณีย์ไทย พร้อมการันตีผลไม้จากสหกรณ์ทุกชนิดก่อนส่งถึงผู้บริโภค ต้องเป็นสินค้าดีมีคุณภาพ พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคที่สั่งซื้อลำไยจากสหกรณ์ หากได้รับสินค้าที่มีคุณภาพไม่ตรงตามที่ต้องการ ยินดีคืนเงิน หรือส่งสินค้าใหม่ไปเปลี่ยนให้ทันที

นายเชิดชัย พรหมแก้ว

นายเชิดชัย พรหมแก้ว รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในการแก้ปัญหาลำไยราคาตกต่ำว่า ปีนี้ลำไยภาคเหนือคาดว่าจะมีปริมาณผลผลิตออกมาจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลทำให้ราคาปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว กรมส่งเสริมสหกรณ์จึงได้หาแนวทางเสริมในการช่วยแก้ไขปัญหาราคาลำไยตกต่ำและช่วยเหลือเกษตรกรสมาชิกสหกรณ์ โดยใช้ระบบสหกรณ์เป็นกลไกในการรวบรวมผลผลิตและกระจายผลผลิตลำไยออกสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ และจะร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการกระจายลำไยด้วย ซึ่งเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้มีการประชุมตัวแทนสหกรณ์ที่รวบรวมลำไยสดใน 6 จังหวัดภาคเหนือ จำนวน 15 แห่ง วางแผนในการรวบรวมลำไยสด และส่งกระจายผ่านช่องทางตลาดต่างๆ โดยกระทรวงพาณิชย์จะมีงบอุดหนุนให้กับสหกรณ์ในการระบายผลผลิต และสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้สหกรณ์รวบรวมลำไยไว้แปรรูปเป็นลำไยอบแห้ง เพื่อรอการจำหน่ายในฤดูกาลหน้า เพื่อดึงพ่อค้าที่ต้องการซื้อลำไยอบแห้งเข้ามา คาดว่าน่าจะทำตลาดได้ดีกว่าขายเป็นลำไยสด

“เป้าหมายสหกรณ์ในการรวบรวมผลผลิตลำไยแบบสด คาดว่าจะดำเนินการได้ประมาณ 3,000 ตัน   มูลค่า 90 ล้านบาท เพื่อทำตลาดลำไยสดช่อคุณภาพ ลูกสม่ำเสมอ ซึ่งขณะนี้มีสหกรณ์ 7 แห่ง ใน 3 จังหวัดภาคเหนือ คือ พะเยา เชียงใหม่ และน่าน ได้ส่งเสริมสมาชิกให้ผลิตลำไยคุณภาพอย่างต่อเนื่องและพยายามรักษาตลาดเดิมเอาไว้ เพื่อให้ผู้บริโภคในประเทศได้รับประทานลำไยรสชาติดีมีคุณภาพ โดยทางบริษัท ไปรษณีย์ไทย จะเปิดรับออเดอร์จากผู้บริโภคปลายทาง แล้วแจ้งยอดการสั่งซื้อลำไยกับทางสหกรณ์ ซึ่งสหกรณ์จะดำเนินการตามกลไกตลาดปกติ ดูดซับลำไยบางส่วนออกมาจากพื้นที่ นำมาคัดเกรดเป็นลำไยสดช่อคุณภาพดี ขนาดไม่เกิน 80 ลูก ต่อกิโลกรัม มีสัดส่วน ขนาด AA : A 70 : 30 ก้านช่อยาวไม่เกิน 6 นิ้ว และบรรจุลงตะกร้า ขนาด 10 กก. ตะกร้าขนาด 3 กก.และกล่องกระดาษขนาด 10 กก. ราคาขายจะเป็นราคารับซื้อจากเกษตรกรบวกค่าบริหารจัดการตามระยะทาง ที่กำหนดในเบื้องต้นราคาจำหน่ายลำไยคุณภาพสดช่อถึงมือผู้บริโภค 30-34 บาท ต่อกิโลกรัม และจะมีการรับประกันสินค้าด้วย หากเปิดกล่องออกมาไม่ได้คุณภาพตามที่ผู้บริโภคต้องการ ทุกสหกรณ์ยินดีคืนเงินให้ หรือส่งสินค้าใหม่ไปเปลี่ยนให้ทันที เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคที่สั่งซื้อลำไยจากสหกรณ์” รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว

รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวต่อว่า ภาพรวมตลาดลำไยของ 7 สหกรณ์ ผลผลิตส่วนใหญ่นำไปอบแห้งทั้งเปลือก ส่งขายตลาดในประเทศจีนเป็นหลัก ซึ่งการทำตลาดลำไยรูดอบแห้ง สัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 70% ของปริมาณผลผลิตทั้งหมด ซึ่งการขายลำไยอบแห้งจะขายได้ดีกว่าลำไยสด และคุ้มค่ากับต้นทุนมากกว่า ซึ่งสหกรณ์จะแบ่งตลาดชัดเจน ลำไยสดจะขายตลาดในประเทศ ลำไยอบแห้งส่งขายประเทศจีน เนื่องจากคนจีนนิยมลำไยอบแห้ง เพราะเขาใช้ลำไยอบไปเซ่นไหว้ และกินเป็นยาอายุวัฒนะ

ที่ผ่านมา ราคาลำไยสดจะขึ้นอยู่กับตลาดลำไยอบแห้งเป็นหลัก แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะอยู่ที่กิโลกรัมละกี่บาท เพราะในแต่ละปี ตลาดลำไยสดขนาดใหญ่ของไทยคือ ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งไทยได้ส่งลำไยไปขายอินโดนีเซีย ปีละประมาณ 90,000 ตัน และในฤดูกาลปีนี้ที่ลำไยกำลังจะออกสู่ตลาด ทางอินโดนีเชียห้ามนำลำไยสดจากประเทศไทย จึงคาดการณ์ว่าเมื่ออินโดนีเซียไม่นำเข้าลำไยสดจากไทยอาจส่งผลกระทบให้ลำไยในประเทศราคาตกต่ำ จึงต้องใช้กลไกสหกรณ์เข้ามาช่วยรองรับผลผลิตลำไยของเกษตรกรและเร่งกระจายสู่ตลาด

อย่างไรก็ตาม กรมฯ มีนโยบายในการส่งเสริมตลาดผลไม้ของสหกรณ์ จะคัดเฉพาะที่มีคุณภาพทั้งหมด เพื่อให้ผู้บริโภคที่อยู่นอกแหล่งผลิตได้บริโภคสินค้าดีมีคุณภาพ เนื่องจากที่ผ่านมา เกษตรกรส่วนใหญ่จะคัดของคุณภาพดีส่งขายตลาดต่างประเทศก่อน ดังนั้น จะต้องปรับบทบาทให้สหกรณ์เป็นผู้ผลิตผลไม้คุณภาพดีส่งให้ผู้บริโภคในประเทศได้รับประทาน โดยจะเริ่มจากการทำตลาดลำไยคุณภาพในเดือนกรกฎาคมนี้