ป่วย “ไมเกรน” ต้องระวัง เสี่ยงเส้นเลือดสมองแตก

เวลามีใครปวดหัว หรือคนรอบๆ ตัว บ่นว่า มีอาการปวดหัว สาเหตุแรกๆ ที่คนเรานึกถึงคือ “เป็นไมเกรนหรือเปล่า” เหตุผลหนึ่ง เพราะไมเกรนเป็นโรคที่คนเป็นกันเยอะ ก็เลยคุ้นเคย มีการพูดถึงเยอะ 

โรคไมเกรน เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาท ซึ่งอาจเป็นผลมาจากพันธุกรรมที่ผิดปกติ รวมถึงปัจจัยจากสิ่งแวดล้อม เช่น ความเครียด และการอักเสบในร่างกายร่วมด้วย

แม้ว่า ไมเกรน ไม่ถึงขั้นคร่าชีวิต แต่มีข้อมูลที่น่ากลัวว่า คนที่เป็นโรคไมเกรนมีโอกาสเกิดโรคเส้นเลือดสมองตีบและแตกได้มากกว่าคนปกติ

เรืออากาศโท นพ. กีรติกร ว่องไววาณิชย์ อายุรแพทย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลกรุงเทพ เปิดเผยว่า ไมเกรน เป็นโรคปวดศีรษะชนิดหนึ่งที่เชื่อว่าหลายคนเคยได้ยิน ถือเป็นโรคทางระบบประสาทที่พบได้บ่อยในทุกเพศ ทุกวัย แต่พบได้บ่อยที่สุดในวัยทำงาน (อายุประมาณ 30-40 ปี)

ประมาณการว่า ในประเทศไทยมีผู้ป่วยด้วยโรคไมเกรนมากถึง 12 ล้านคน ผู้หญิงเป็นไมเกรนมากกว่าผู้ชายประมาณ 3 เท่า เนื่องมาจากปัจจัยทางด้านพันธุกรรมและฮอร์โมนเพศ เชื่อว่าปัจจัยของพันธุกรรมมีส่วนทำให้ระบบประสาทมีความไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าปกติ ร่วมกับปัจจัยจากภายนอก เช่น สิ่งแวดล้อม ฮอร์โมน การพักผ่อนไม่เพียงพอ รวมถึงความเครียด ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ล้วนกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะแบบไมเกรนขึ้นได้

อาการปวดศีรษะไมเกรน จะพบความผิดปกติของสมองหลายส่วน สมองส่วนที่เรียกว่า ไฮโปทาลามัส (Hypothalamus) เป็นส่วนที่เริ่มทำงานผิดปกติก่อน ซึ่งสมองส่วนนี้จะทำหน้าที่หลายอย่าง เช่น ควบคุมระบบประสาทอัตโนมัติ ควบคุมความอยากอาหาร การนอน-การตื่น อุณหภูมิร่างกาย รวมทั้งฮอร์โมนในร่างกาย ในระยะถัดมาจะเกิดการทำงานผิดปกติที่ก้านสมอง (brain stem) โดยก้านสมองจะส่งสัญญาณความปวดไปยังเส้นประสาทสมองคู่ที่ 5 ซึ่งเส้นประสาทสมองคู่ที่ 5 นี้ จะปล่อยสารการอักเสบที่ส่วนปลายของเส้นประสาท ทำให้เกิดความรู้สึกปวดขึ้นที่บริเวณศีรษะและใบหน้า การรับความรู้สึกของบริเวณศีรษะและใบหน้าจะเพิ่มมากขึ้น ทำให้รับรู้การเต้นของเส้นเลือด เป็นลักษณะการปวดแบบตุ๊บๆ

คนที่เป็นไมเกรน อาจมีความผิดปกติทางระบบประสาทอื่นๆ ร่วมได้ เช่น การเห็นภาพที่ผิดปกติ เป็นเส้นซิกแซ็กหรือจุด เห็นแสงระยิบระยับ มีภาพมืด ซึ่งเป็นอาการที่เกิดก่อนที่จะมีอาการปวดศีรษะไมเกรน บางคนอาจมีอาการอ่อนเพลีย หาวนอน คิดอะไรไม่ค่อยออกนำมาก่อนที่จะเกิดอาการปวดศีรษะได้ถึง 3 วัน

นอกเหนือจากนี้ ในช่วงที่มีอาการปวดศีรษะ มักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ไม่อยากเห็นแสงจ้า ไม่อยากได้ยินเสียงดัง รวมถึงอาจเกิดอาการเวียนศีรษะร่วมด้วยได้มากกว่าครึ่งหนึ่ง อาการเวียนศีรษะพบร่วมกับอาการปวดศีรษะไมเกรนได้ถึง 1 ใน 3 โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่เป็นไมเกรนแบบมีอาการเตือน (migraine with aura) จะพบอาการเวียนศีรษะมากกว่ากลุ่มคนที่เป็นไมเกรนแบบไม่มีอาการเตือนถึง 2 เท่า ในบางรายอาจมีอาการเวียนศีรษะรุนแรงเป็นลักษณะของบ้านหมุนร่วมกับอาการคลื่นไส้-อาเจียน บางรายเป็นไม่รุนแรงอาจจะมีความรู้สึกโคลงเคลงเหมือนนั่งอยู่ในเรือ รู้สึกการทรงตัวไม่ดี ไม่สามารถเคลื่อนไหวศีรษะหรือร่างกายเร็วๆ ได้

ข้อมูลที่น่ากลัวคือ นพ.กีรติกร บอกว่า โรคปวดศีรษะไมเกรนมีความสัมพันธ์กับโรคเส้นเลือดสมอง ข้อมูลจากรายงานในวารสารทางการแพทย์ “Brain” ที่ตีพิมพ์ในเดือนตุลาคม 2017 บอกว่า คนที่เป็นไมเกรนชนิดมีอาการเตือน (mi-graine with aura) จะเกิดเส้นเลือดสมองตีบได้มากกว่าคนทั่วไปถึง 27% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิงที่มีอายุน้อยกว่า 50 ปี จะมีปัจจัยเสี่ยงในการเกิดเส้นเลือดสมองตีบสูงสุด ส่วนคนไข้ไมเกรนชนิดมีอาการเตือนที่ใช้ยาคุมกำเนิดมีฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen) เป็นส่วนประกอบจะพบความเสี่ยงของเส้นเลือดสมองตีบเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า ดังนั้น จึงจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ก่อนจะใช้ยาคุมกำเนิด อีกทั้งพบว่าคนที่เป็นไมเกรนมีความเสี่ยงในการเกิดเส้นเลือดสมองแตกมากกว่าคนทั่วไปถึง 46%

ดังนั้น จึงต้องมีการดูแลรักษาอาการไมเกรนให้ดี ใช้ยาแก้ปวด รวมทั้งยาป้องกันอย่างถูกต้องและเหมาะสม เนื่องจากยาในกลุ่มแก้ปวดบางชนิดสามารถเพิ่มปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคเส้นเลือดสมองและหัวใจได้

ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์