ชาวนาบุรีรัมย์ แห่เข้าโรงรับจำนำข้าวคึก ข้าวราคาตกกระทบครอบครัว

ชาวนาในจังหวัดบุรีรัมย์ ไม่เลือกนำข้าวเปลือกไปขายให้กับโรงสี หลังราคาข้าวเปลือกนาปีตกต่ำในรอบหลายสิบปี ทำให้ได้รับความเดือดร้อน โดยชาวนาบางส่วนต้องนำสิ่งของมีค่า เช่น ทองรูปพรรณ เครื่องใช้ไฟฟ้า ผ้าไหม และสิ่งของมีค่าอื่นๆ เข้าไปใช้บริการโรงรับจำนำ หรือสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เพื่อนำเงินไปเป็นค่าจ้างรถเกี่ยวข้าว หรือเป็นค่าจ้างแรงงานในการเก็บเกี่ยวข้าว และใช้จ่ายในครอบครัว โดยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จะมีเกษตรกรเข้าไปใช้บริการโรงรับจำนำเทศบาลเมือง เฉลี่ยวันละ 500-600 ราย นอกจากนั้น ยังมีเกษตรกรที่ไม่มีเงินไปไถ่ถอนสิ่งของมีค่าที่นำไปฝากไว้มาติดต่อตัดดอกไว้ก่อนอีกด้วย

นายเพียร สวัสดี ชาวนาบ้านหนองเครือ ตำบลถลุงเหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ได้นำทองรูปพรรณมาจำนำในครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปเป็นค่าจ้างรถเกี่ยวข้าว เพราะไม่สามารถนำข้าวไปขายได้เนื่องจากราคาข้าวตกต่ำเพียง กิโลกรัมละ 5-6 บาทเท่านั้น ส่วนข้าวเปลือกที่เก็บไว้จะรอนำไปเข้าร่วมโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวของรัฐบาล จึงจะนำเงินมาไถ่ถอนทองที่นำมาฝากไว้ที่โรงจำนำ จึงขอให้รัฐบาลได้เร่งดำเนินการในโครงการอย่างเร่งด่วนด้วย

ด้าน นางประทุมวดี อ๊อกมณโท ผู้ช่วยผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีเกษตรกรนำสิ่งของมีค่าไปใช้บริการโรงรับจำนำ นำเงินไปใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากวันละ 200-300 ราย เป็น 700-800 ราย ใช้เงินในการให้บริการจากปกติ วันละ 2-3 ล้านบาท เป็นวันละ 7-8 ล้านบาท และมีเกษตรกรบางส่วนไม่มีเงินมาไถ่ถอนทรัพย์สิน ก็เข้ามาติดต่อขอตัดดอกแทน เชื่อว่าหากรัฐบาลเปิดโครงการรับจำนำข้าวในยุ้งฉาง หรือโครงการสินเชื่อชะลอขายข้าวจะมีเกษตรกรนำเงินมาไถ่ถอนสิ่งของมีค่าที่นำมาฝากไว้จำนวนมาก

 

 

ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด