มะกันร้องตัดสิทธิ์ภาษีเกษตรไทย มูลค่า 1.37 หมื่นล. – ดัดหลังเบรกนำเข้าหมูเร่งเนื้อแดง

“ชุติมา” นำทีมกระทรวงเกษตรฯ-สาธารณสุข บินร่วมเวทีประชาพิจารณ์ที่สหรัฐ ก.ค.นี้ หลังสภา   ผู้ผลิตหมูมะกันร้องสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐ ให้ตัดจีเอสพีสินค้าเกษตรของไทยกว่า 56 รายการ มูลค่า 17,172 ล้านบาท กรณีไทยไม่ยอมนำเข้าหมูที่มีการใช้สารเร่งเนื้อแดงแรคโตพามีน

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เปิดเผยว่า เดือนกรกฎาคมนี้ นางสาวชุติมา บุณยประภัศร     รมช.พาณิชย์ จะเป็นหัวหน้าทีมนำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปสหรัฐอเมริกา ร่วมฟังการทำประชาพิจารณ์หรือรับฟังความคิดเห็นในการแสดงข้อเท็จจริงต่อสาธารณชนในสหรัฐ หลังสำนักผู้แทน การค้าสหรัฐอเมริกาประกาศยอมรับคำร้องของสภาผู้ผลิตหมูของสหรัฐ ที่เสนอให้ทบทวนการให้ภาครัฐตัดสิทธิประโยชน์ทางภาษี (จีเอสพี) กรณีไม่ให้มีการนำเข้าหมูสหรัฐมาไทย ด้วยเหตุผลที่ระบุว่า หมูสหรัฐมีการใช้สารเร่งเนื้อแดงแรคโตพามีนในการเลี้ยง

ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) คาดการณ์ผลกระทบหากไทยถูกตัดจีเอสพีของสหรัฐอเมริกา จะกระทบสินค้าเกษตรบางรายการ แต่สินค้าเกษตรที่ได้รับจีเอสพีขณะนี้มีจำนวน 56 รายการ มูลค่า 17,172 ล้านบาท หรือคิดเป็น 14.9% ของสินค้าไทยจำนวน 4,600 รายการ ที่ได้รับสิทธิประโยชน์ด้าน จีเอสพี มูลค่า 114,905 ล้านบาท

สินค้าเกษตรที่ได้รับสิทธิประโยชน์ภายใต้โครงการ จีเอสพี ของสหรัฐอเมริกา มี เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ผลไม้ปรุงแต่ง ซอส และเครื่องปรุง ถั่วปรุงแต่ง พาสตา ปูปรุงแต่ง น้ำตาลดิบ มังคุด มะม่วง ฯลฯ ส่วนสินค้ายางธรรมชาติที่ส่งออกไปสหรัฐอเมริกาไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ ตามโครงการจีเอสพี เนื่องจากอัตรานำเข้าของภาษีอยู่ที่พิกัด 0% อยู่แล้ว

สำหรับการพิจารณาจีเอสพีไทยยอมรับมีความกังวลในเรื่องนี้ โดยปกติสหรัฐอเมริกาจะมีการทบทวนการให้จีเอสพีเป็นประจำทุกปี เพื่อปรับปรุง แก้ไข และเพิ่มเติมรายการสินค้าที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี หรือ จีเอสพี หรือเพิกถอนให้สิทธิ เมื่อพิจารณาเฉพาะสินค้า เกษตรที่สำคัญพบว่าหากไทยถูกสหรัฐอเมริกาตัดสิทธิประโยชน์ทางภาษีผ่านโครงการจีเอสพี จะส่งผลให้การนำเข้าสินค้าที่ต้องเสียภาษี 0%  มาอยู่ในอัตราภาษีระดับ 1-17.9% แตกต่างตามชนิดสินค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของประเทศไทย

ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจากข่าวสด