เกษตรราคาตก-ค้างชำระ 3 หมื่นล้าน ธ.ก.ส.ปรับโครงสร้างหนี้-หวั่นเอ็นพีแอลพุ่งขึ้น 6%

 

ลูกค้าธ.ก.ส. ชาวไร่ชาวสวนผลไม้ เจอผลผลิตตกต่ำ ค้างชำระหนี้กว่า 3 หมื่นล้าน สั่งสาขาทั่วปท. เร่งปรับโครงสร้างหนี้ ยืดเวลาชำระหนี้ หรือชำระเฉพาะดอกเบี้ย คาดช่วยได้แค่ 60% หรือ 1.8  หมื่นล้าน โดยสับปะรดหนักสุด รองลงมาเป็นมะนาวและกล้วย ส่วนมังคุดราคาดีแต่ออกมาน้อยเกิน

นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีลูกค้าเกษตรกรของธนาคาร ประสบปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และมีการค้างชำระหนี้มากกว่า 0-3 เดือน มากกว่า 30,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าชาวสวนชาวไร่ผลไม้มากสุด โดยเฉพาะสับประรด เช่น ลำปาง เชียงใหม่ ประสบปัญหาราคาตกต่ำจากปีที่แล้วมาก รองลงมาก็เป็นมะนาว กล้วยที่มีการเพาะปลูกกันเยอะ รวมถึงมังคุดในภาคตะวันออก แม้ราคาดีแต่ผลผลิตออกมาน้อย ทำให้มีปัญหาการผ่อนชำระ

จึงมอบหมายนโยบายเร่งด่วน สาขา ธ.ก.ส. ทั่วประเทศให้เข้าไปช่วยดูแลปรับโครงสร้างหนี้ให้กับเกษตรกรกลุ่มนี้อย่างเร่งด่วน หากไม่มีการดูแลจนค้างผ่อนชำระเกิน 3 เดือน ลูกค้ากลุ่มนี้จะกลายเป็นหนี้เสียทันที และทำให้ธนาคารมียอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เพิ่มเป็นก้าวกระโดดจาก 4.29% ในสิ้นเดือนมีนาคม2561 เพิ่มเป็น 6% ส่งผลเสียต่อทั้งลูกค้าและเป็นภาระธนาคารให้มีการตั้งสำรองสูงขึ้น ระหว่างนี้ต้องเร่งแก้ไข หากเกษตรกรประสบปัญหาก็เข้ามาติดต่อที่สาขาธนาคารได้

“การช่วยเหลือของธนาคาร จะเน้นปรับโครงสร้างหนี้ให้ เช่น ขยายเวลาชำระหนี้ ปรับตารางชำระดอกเบี้ยใหม่ หรืออาจให้ชำระแต่ดอกเบี้ยไปก่อน เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้ มีความตั้งใจในการชำระหนี้ แต่อาจมีเงินผ่อนส่งไม่ถึงเกณฑ์ จึงต้องช่วยเหลือ คาดว่าเมื่อปรับโครงสร้างให้ ลูกหนี้กลุ่มนี้แล้ว จะช่วยยับยั้งการเป็นหนี้เสียได้ถึง 60% คิดเป็นวงเงินกว่า 18,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 12,000 ล้านบาทจะไหลเข้ามาสู่กลุ่มหนี้เสีย เมื่อผสมกับการ แก้หนี้เสียก้อนเก่า ช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย. ที่ลดลงไป 1 หมื่นกว่าล้านบาท ทำให้ภาพรวมเอ็นพีแอลธ.ก.ส. ไตรมาสแรกปีบัญชี (เม.ย.-มิ.ย.) ยังทรงตัวใกล้เคียงสิ้นปีบัญชี 4%”
นายอภิรมย์ กล่าวต่อว่า ส่วนยอดเงินฝากในช่วงปีบัญชีไตรมาสแรกมีเงินฝากสุทธิเข้ามา 7,832 ล้านบาท ตามคาด เนื่องจากไตรมาสแรกจะมีเงินฝากน้อย เนื่องจากเป็น ช่วงที่เกษตรกรมีภาระรายจ่ายเยอะ แต่ในไตรมาสสอง ช่วงเดือน กรกฎาคม-กันยายน ยอดเงินฝากจะเพิ่มเร็วขึ้น สิ้นปีนี้ เงินฝากสุทธิ จะเพิ่มตามเป้าหมาย 5.75 หมื่นล้านบาท

ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจากข่าวสด