ตร.สุรินทร์ สนธิกำลังทหาร บุกจับเขมรลอบตัดไม้ ‘พะยูง’ แนวชายแดน

พ.ต.อ. จเร สุปิรยะ ผู้กำกับการสืบสวนสถานีตำรวจภูธรจังหวัด (สภ.จว.) สุรินทร์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.นิพนธ์ อินทรกำแหง รอง ผกก.สภ.จว.สุรินทร์ ร.ต.อ.อุดม กิตติยศประดิษฐ์ รอง สว.กก.สภ.จว. สุรินทร์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการฐานไผทพิทักษ์ อ.กาบเชิง นำกำลังชุดปฏิบัติการไผทพิทักษ์ร่วมกับเจ้าหน้าที่สายตรวจเขตฯ เจ้าหน้าที่หน่วยฯ ช่องจอม เจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่าช่องจอม เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพราน 2608 เจ้าหน้าที่ทหารร้อย ร.213 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.กาบเชิง ได้สนธิกำลังออกลาดตระเวนป้องกันรักษาป่า พื้นที่ป่าไม้ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณป่าทิศตะวันตกอ่างเก็บน้ำด่าน ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ ทับซ้อนเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายห้วยทับทัน แปลงที่ 3

ขณะลาดตระเวนพบชาวกัมพูชาจำนวนหลายคนกำลังลักลอบตัดไม้พะยูงต้นขนาดใหญ่ จึงได้ส่งสัญญาณให้หยุด ปรากฏว่าชาวกัมพูชาได้พากันแตกตื่นและวิ่งหลบหนีเข้าป่าข้ามกลับเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวไว้ได้ จำนวน 1 คน ทราบชื่อคือ นายเมง เหียง อายุ 19 ปี ชาวบ้านจังกาเจก ต.โอร์เสม็ด อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา พร้อมของกลางไม้พะยูง 21 ท่อน ปริมาตร 2.798 ลูกบาศก์เมตร เลื่อยตัด 1 ปื้น ล้อรถเข็นพร้อมเพลา 1 คู่ โคมไฟคาดศีรษะ 1 อัน จึงได้นำตัวมาสอบปากคำ และบันทึกประจำวัน ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.กาบเชิง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนไม้พะยูงของกลางพร้อมอุปกรณ์ในการกระทำผิด ได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าสุรินทร์ได้รับแจ้งจากพลเมืองเมืองดีว่า พบรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ 4 ประตู ติดหลังคากระบะหลัง สีเทา กค 2679 สกลนคร จอดอยู่ใกล้กับร้านก๋วยเตี๋ยวในหมู่บ้านนาสวน ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ลักษณะผิดสังเกต จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรบัวเชด ตำรวจตระเวนชายแดน 214 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ร่วมกันเข้าตรวจสอบรถคันดังกล่าว ขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ปรากฏว่าคนที่นั่งอยู่ภายในรถรู้ตัวและขับรถหนีเข้าไปในวัดสนวนพัฒนา ต.จรัส อ.บัวเชด ก่อนจะจอดรถแล้วพากันวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า ซึ่งเป็นป่ารกทึบเขาสูง เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในรถพบไม้พะยูง 14 ท่อน ในรถมีการดัดแปลงภายในเพื่อให้มีพื้นที่สามารถใส่ไม้พะยูงได้ทีละมากๆ เจ้าหน้าที่ทำการตรวจยึด และส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบัวเชด ทำการสืบสวนหาเจ้าของรถเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ที่มา มติชนออนไลน์