เกษตรสุราษฎร์ โต้เพจดัง แฉปุ๋ยมูลไก่ส่งกลิ่นเหม็น ทิ้ง ร.ร. ร้าง ขายไม่ออก พาพิสูจน์ให้หายข้องใจ

จากกรณีเพจแห่งหนึ่ง ได้โฟสต์กองกระสอบปุ๋ยถูกวางไว้ในอาคาร ผ่านโซเชียล ระบุว่า “ปุ๋ยโครงการ 9101 ของตำบลบางเดือน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ถูกทิ้งในโรงเรียนร้าง พร้อมติด#ว่า ปุ๋ยโปกาชิ ปุ๋ยเน่า ขายไม่ออก ส่งกลิ่นเหม็น พร้อมตั้งข้อสังเกตว่ามีกลิ่นไข่เน่าอาจใช้หัวเชื้อไม่ได้คุณภาพ อาจมีความชอบมาพากลในการจัดซื้อวัสดุ”

จากกรณีดังกล่าว ล่าสุด วันที่ 11 ก.ค. นายธาร นวลนึก เกษตรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้ นายระนอง เหมทานนท์ เกษตรอำเภอพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี นายสุวัฒน์ จรัลศิลป์ กำนันตำบลบางเดือน พร้อมคณะกรรมการกลุ่มผลิตปุ๋ย โครงการ 9101 ของ ต.บางเดือน และชาวบ้าน ร่วมลงพื้นที่โรงเรียนบ้านแท่นแก้ว หมู่ที่ 3 ต.บางเดือน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ตรวจสอบพบถุงปุ๋ยกว่า 2,000 กระสอบ วางไว้ในอาคารโรงอาหารของโรงเรียนซึ่งได้ปิดทิ้งร้างและไม่ได้ใช้ประโยชน์ พบว่า เป็นปุ๋ยที่แห้งและล้วนมีแกลบและมูลไก่เป็นส่วนผสม และไม่มีกลิ่นเหม็น

นายสุวัตน์ กล่าวว่า ปุ๋ยที่เห็นเป็นปุ๋ยที่มีการสั่งจองแล้ว บางรายจ่ายเงินไว้แล้ว บางรายยังไม่จ่าย แต่ขอฝากเก็บปุ๋ยไว้ก่อน เนื่องจากสภาพอากาศยังไม่เหมาะสมในการใส่ปุ๋ย จึงใช้โรงอาหารที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ มีหลังคากันแดดกันฝนได้ เป็นโกดังชั่วคราว รอให้เกษตรกรมารับ ไม่ได้ถูกทิ้งให้เน่าตามที่ถูกกล่าวอ้าง และไม่มีกลิ่นเหม็น เพราะตอนนี้ปุ๋ยแห้งมีน้ำหนักเบา

 

ด้าน นางกัญชุดา ฤกษ์งานดี อายุ 45 ปี หนึ่งในเกษตรกรที่ฝากปุ๋ยไว้ 400 กระสอบ ระบุว่า ปุ๋ยที่จองได้จ่ายเงินไปเรียบร้อย แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะนำปุ๋ยไปใช้ จึงฝากไว้ก่อน เพราะที่บ้านก็ไม่มีที่เก็บ เมื่อพร้อมจะนำไปใช้ อีกทั้งรอให้ปุ๋ยมีคุณภาพดี เนื่องจากปุ๋ยชนิดนี้ยิ่งทิ้งไว้นานยิ่งดี เพราะใช้แล้วเห็นผลว่าคุณภาพดีและราคาถูก เนื่องจากก่อนจะมี โครงการ 9101 ได้เข้าร่วมกลุ่มทำปุ๋ย ในพื้นที่ตำบลอื่นเพื่อหาปุ๋ยชีวภาพที่ดีและถูก แต่ก็เทียบไม่ได้กับ โครงการ 9101 ตำบลบางเดือน ที่มีราคาถูกกว่าถึง 10 เท่า และมีคุณภาพดี เพราะทิ้งไว้นานจนมีน้ำหนักเบา ซึ่งหลังจากนี้หากปุ๋ยไม่เหลือก็อาจจะขอแบ่งจากคนที่จองไว้

ด้าน นายธาร กล่าวว่า สำหรับ โครงการปุ๋ย 9101 ตำบลบางเดือน สามารถผลิตปุ๋ยได้จำนวนกว่า 10,000 กระสอบ ตามเป้าหมายของโครงการ และจัดจำหน่ายให้เกษตรกรไปใช้แล้ว มีเงินหมุนกลับคืนมาในบัญชีแล้วกว่า 3 แสนบาท ที่เตรียมนำไปต่อยอดในการพัฒนาชุมชน ส่วนปุ๋ยที่เหลือเป็นปุ๋ยที่รอนำไปใช้ประโยชน์ ไม่ได้ถูกทิ้ง หรือขายไม่ออกแต่อย่างใด