เผยแพร่ |
---|
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่ทุ่งนาบ้านระหาร หมู่ 10 ตำบลชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ นายบัญญัติ จำปาทาสี ผู้ใหญ่บ้านระหาร พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่นาข้าวหอมมะลิของชาวบ้าน พบว่าต้นข้าวเหี่ยวแห้ง บางส่วนยืนต้นตาย เนื่องจากฝนไม่ตกมาร่วม 2 เดือนแล้ว โดยเฉพาะหมู่ 10 คาดว่าเสียหายจำนวน 2,218 ไร่ จากพื้นที่ 3,827 ไร่ ถ้ารวมพื้นที่หมู่บ้านอื่นๆ ด้วย คาดว่าน่าจะเสียหายเป็นหมื่นไร่ ขณะที่ชาวบ้านรอน้ำฝน ส่วนชาวบ้านบางรายได้มีการไถกลบ เพื่อหว่านข้าวใหม่อีกครั้งหากฝนตก แต่ก็มีปัญหาเรื่องเมล็ดพันธุ์ข้าวที่หายากและราคาสูง
นายบัญญัติ กล่าวว่า ได้ทำหนังสือแจ้งไปทางหน่วยงานอำเภอและเกษตรอำเภอไปแล้ว จำนวนผู้ที่นาข้าวเสียหายแจ้งมาตอนนี้ 153 ราย แต่ยังไม่มีหน่วยงานลงมาดูแลบางหมู่บ้านมีการแจ้งไปแล้วเช่นกัน ส่วนสาเหตุเกิดจากฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน เพราะพื้นที่นี้ใช้น้ำจากธรรมชาติเพียงอย่างเดียว อยากให้จังหวัดช่วยประกาศเป็นพื้นที่ภัยแล้งให้ด้วย เพราะได้รับความเดือดร้อนจริงๆ สภาพฝนทิ้งช่วงยาวนานแบบนี้ ชาวบ้านไม่เคยเจอมา 20 ปีแล้ว
ที่ อำเภอสำโรงทาบ ชาวนาในพื้นที่ ตำบลเกาะแก้ว ต้องนำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำบ้านเกาะแก้เพื่อเข้าที่นา ด้วยการรวบรวมเงินคนละ 100-200 บาท เพื่อซื้อน้ำมันและนำเครื่องสูบน้ำลงมาสูบที่อ่างเก็บน้ำบ้านเกาะแก้ว ในการยืดอายุต้นกล้าจนกว่าฝนจะตกลงมา
ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน