เผยแพร่ |
---|
กรมส่งเสริมการเกษตร เร่งติดตามสถานการณ์และแนวโน้มการผลิต การตลาดลำไย ปี 2561 ใน 8 จังหวัด ภาคเหนือ เน้นวิเคราะห์และเฝ้าระวังปัญหาที่จะเกิดขึ้นช่วงผลผลิตกระจุกตัวในเดือนสิงหาคมนี้ รวมทั้งติดตามสถานการณ์การเก็บเกี่ยวและราคาผลผลิต เพื่อเตรียมมาตรการรองรับและจัดทำแผนบริหารจัดการผลผลิตอย่างครบวงจร
นายสำราญ สาราบรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า จากการคาดการณ์แนวโน้ม ผลผลิตลำไย ปี 2561 ใน 8 จังหวัด ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง และจังหวัดตาก จะมีผลผลิตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ประมาณ 40,913 ตัน คิดเป็น ร้อยละ 6.7 โดยเป็นผลผลิตในฤดู 381,498 ตัน (58%) และนอกฤดู 272,831 ตัน (42%) ดังนั้น กรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้จัดให้มีการประชุมติดตามสถานการณ์และแนวโน้มการผลิต การตลาดลำไย ปี 2561 ของ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ณ ห้องประชุมสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 6 จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์การผลิต การตลาดลำไย ปี 2561 รายจังหวัด การเฝ้าระวังปัญหาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงผลผลิตกระจุกตัว (พีค) ในช่วงเดือนสิงหาคม 2561 การติดตามสถานการณ์การเก็บเกี่ยวและราคาผลผลิตลำไย ปี 2561 (War room) รวมทั้งการจัดประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการบริโภคลำไย พร้อมวางแผนบริหารจัดการผลผลิตลำไยในฤดู เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น
สำหรับประมาณการผลผลิตลำไยในฤดู ทั้ง 8 จังหวัด ภาคเหนือ จะมีผลผลิตรวม 381,498 ตัน แบ่งเป็น เชียงใหม่ พื้นที่ปลูก 195,670 ไร่ ผลผลิต 137,219 ตัน ลำพูน พื้นที่ปลูก 182,391 ไร่ ผลผลิต 125,120 ตัน เชียงราย พื้นที่ปลูก 130,902 ไร่ ผลผลิต 63,357 ตัน พะเยา พื้นที่ปลูก 56,383 ไร่ ผลผลิต 25,632 ตัน น่าน พื้นที่ปลูก 33,321 ไร่ ผลผลิต 21,425 ตัน ลำปาง พื้นที่ปลูก 18,702 ไร่ ผลผลิต 5,293 ตัน ตาก พื้นที่ปลูก 3,855 ไร่ พื้นที่ปลูก 1,747 ตัน และแพร่ พื้นที่ปลูก 4,718 ไร่ ผลผลิต 1,705 ตัน โดยมีแผนบริหารจัดการผลผลิตลำไยเชิงปริมาณ แบ่งเป็น 3 แนวทาง คือ
1. การกระจายผลผลิตภายในประเทศ ได้แก่ บริโภคสดตลาดในประเทศ 28,084 ตัน คิดเป็น ร้อยละ 7.36
2. แปรรูป ได้แก่ อบแห้งทั้งเปลือก 227,251 ตัน, อบแห้งเนื้อสีทอง 18,530 ตัน และอื่นๆ (เช่น โรงงานผลไม้กระป๋อง/น้ำสกัดผลไม้เข้มข้น/แช่แข็ง) 25,089 ตัน คิดเป็น ร้อยละ 71 และ
3. ลำไยสดส่งออก 82,544 ตัน คิดเป็นร้อยละ 21.61 โดยมอบหมายให้คณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) เป็นแกนหลักบริหารจัดการผลไม้ในพื้นที่ ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลและให้ข้อมูลเกษตรกรเพื่อใช้ประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาผลผลิตทางการเกษตร รวมทั้งพิจารณาวางแผนและกำหนดวิธีการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในระดับจังหวัด ขณะนี้มีผลผลิตที่เก็บเกี่ยวแล้ว จำนวน 4,891 ตัน คิดเป็น ร้อยละ 1 ราคาจำหน่ายลำไยผลสดลูกร่วง อยู่ที่ประมาณ 16-17 บาท ต่อกิโลกรัม และลำไยเกรด AA อยู่ที่ประมาณ 27-30 บาท ต่อกิโลกรัม
ส่วนแผนบริหารจัดการเชิงคุณภาพ กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ดำเนินการโครงการรณรงค์การผลิตลำไยคุณภาพ ปี 2561 โดยใช้ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) และการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ (ลำไย) ในการส่งเสริมเกษตรกรผลิตลำไยคุณภาพ จำนวน 6,543 ราย เพื่อให้เกษตรกรผลิตลำไยคุณภาพ เป็นเกรด AA และ A โดยคาดว่าจะมีผลผลิตลำไยคุณภาพ ประมาณ 27,000 ตัน นอกจากนี้ ยังได้มีการส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตลำไยนอกฤดูอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกษตรกรเกิดการยอมรับและปฏิบัติตาม และปรับเปลี่ยนมาผลิตลำไยนอกฤดูเพิ่มขึ้น