ที่มา | เกร็ดเกษตร |
---|---|
เผยแพร่ |
เฝ้าระวังสวนองุ่นในช่วงที่มีฝนตกติดต่อกัน สลับกับมีอากาศร้อน สภาพอากาศเช่นนี้ กรมวิชาการเกษตร แนะเกษตรกรผู้ปลูกองุ่นให้สังเกตการระบาดของโรคผลเน่าและโรคใบจุด มักพบอาการของโรคได้ในระยะที่องุ่นติดผลจนถึงระยะก่อนการเก็บเกี่ยวผลผลิต สำหรับโรคผลเน่า อาการบนใบ ในระยะแรกจะเห็นแผลจุดสีน้ำตาลขนาดเล็กกระจายอยู่ทั่วไปบนใบและกิ่งก้าน อาการบนผล เริ่มแรกเป็นแผลจุดสีน้ำตาลขนาดเล็ก จากนั้นแผลขยายใหญ่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนจนเห็นได้ชัดเจนบนผลองุ่นในระยะใกล้เก็บเกี่ยว แผลฉ่ำน้ำ ยุบตัวลง ไม่มีขอบแผลที่ชัดเจน เนื้อเยื่อกลางแผลฉีกขาด ต่อมาโรคจะขยายลุกลามไปยังผลอื่นๆ ในช่อนั้นจนกระทั่งเน่าเสียหมดทั้งช่อ
หากพบอาการของโรคผลเน่า ให้เกษตรกรพ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืชอะซอกซีสโตรบิน 25% เอสซี อัตรา 5 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารโพรคลอราซ 45% อีซี อัตรา 10-20 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารแมนโคเซบ 80% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 40-50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร โดยพ่นทุก 5-7 วัน
ส่วนโรคใบจุดที่พบได้ในช่วงนี้ อาการของโรคบนใบ พบใบอ่อนเป็นจุดแผลขนาดเล็กสีน้ำตาลอ่อนกระจายอยู่ทั่วใบ ใบหงิกงอ ต่อมาแผลขยายใหญ่ เนื้อใบที่เป็นแผลจะแห้งและเป็นรูพรุน อาการบนเถา กิ่ง ก้าน และมือเกาะ หากเกิดโรคบนกิ่งบริเวณส่วนยอด จะทำให้ยอดบิดเบี้ยว อาการที่ผล เกิดแผลจุดสีดำยุบตัวลง ขอบแผลนูนขึ้นเห็นได้ชัดเจน หากอาการรุนแรง แผลจะขยายใหญ่ ขอบแผลมีสีอ่อนกว่าตรงกลางแผล และแผลค่อนข้างแห้ง
เมื่อพบการระบาดของโรคใบจุด ให้เกษตรกรพ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืชไดฟีโนโคนาโซล 25% อีซี อัตรา 10 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารไพราโคลสโตรบิน 25% อีซี อัตรา 15 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก 5-7 วัน โดยทั้ง 2 โรคนี้ ถ้าพบโรคเริ่มระบาด ให้เกษตรกรหมั่นตรวจแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ ตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่ง มีอากาศถ่ายเทสะดวก อย่าให้มีใบแน่นทึบจนเกินไป อีกทั้งควรตัดและเก็บส่วนที่เป็นโรคออกจากแปลงไปเผาทำลายนอกแปลงปลูก เพื่อลดการสะสมของเชื้อสาเหตุโรค