ค้าชายแดนบูมเฉียด 7 แสนล. มาเลเซียครองแชมป์นิยมไทย

นายวันชัย วราวิทย์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยในช่วง 6 เดือนของปี 2561 มีมูลค่า 678,623 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.78% โดยเป็นการส่งออก 385,550 ล้านบาท ลดลง 0.79% และนำเข้า 293,073 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.70% ไทยเกินดุลการค้า 92,476 ล้านบาท หากแยกเฉพาะการค้าชายแดน มีมูลค่า 553,717 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.36% เป็นการส่งออก 325,202 ล้านบาท ลดลง 1.57% ส่วนนำเข้า 228,515 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.17% เกินดุลการค้า 96,686 ล้านบาท และการค้าผ่านแดนมูลค่า 124,906 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.01% เป็นการส่งออก 60,348 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.69% นำเข้า 64,558 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.09% ขาดดุลการค้า 4,210 ล้านบาท

นายวันชัย กล่าวว่า การค้าชายแดน เมื่อแยกเป็นรายประเทศ พบว่า การค้ากับมาเลเซีย ยังคงนำเป็นอันดับหนึ่ง มีมูลค่า 278,341 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.9% รองลงไปคือ ลาว มูลค่า 107,742 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.33% เมียนมา มูลค่า 97,265 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.58% และกัมพูชา มูลค่า 70,369 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.31% ส่วนการค้าผ่านแดน จีนตอนใต้มียอดค้าขายอันดับหนึ่ง มูลค่า 42,650 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.28% รองลงมา คือ เวียดนาม มูลค่า 41,654 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.83% และสิงคโปร์ มูลค่า 40,602 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.99%

นายวันชัย กล่าวว่า แนวโน้มการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนช่วงครึ่งหลังปี 2561 คาดว่ายังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะเพื่อนบ้านมีความต้องการสินค้าไทยสูงและเศรษฐกิจของคู่ค้ามีการขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยมาเลเซียได้มีการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจและดำเนินโครงการของรัฐให้โปร่งใสเพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ทำให้เศรษฐกิจมาเลเซียจะเติบโตขึ้น และลาว มีโครงการ Visit Laos Year 2018 เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ตั้งเป้า 5 ล้านคน และช่วงครึ่งปี 2561 ทำได้แล้ว 2 ล้านคน ส่งผลให้มีความต้องการสินค้าไทยเพิ่มขึ้น

ส่วนกัมพูชาจะมีการเลือกตั้งวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ คาดว่าพรรคของนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน จะได้รับการเลือกตั้งและกลับมาบริหารประเทศ ทำให้เกิดความต่อเนื่องและมีผลต่อกับการค้าไทย และไทยยังมีโอกาสส่งออกไปยังกัมพูชาทาง จ.เกาะกง ที่ขณะนี้ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย และเมียนมา ต้องติดตามใกล้ชิด เพราะค่าเงินจ๊าดอ่อนตัวลงมากกว่า 1,400 จ๊าดต่อเหรียญสหรัฐ ทำให้สินค้านำเข้ามีราคาสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการที่ต่างชาติชะลอการลงทุน เพราะความไม่มั่นคงในรัฐยะไข่ตอนเหนือ ก็มีปัจจัยบวกจากนิคมอุตสาหกรรมเจ้าตานที่เมืองเมาะลำไยที่ดึงดูดการลงทุน โดยมีนักลงทุนเข้าไปมากแล้ว เช่น ปูนซีเมนต์ อาหาร เป็นต้น

นายวันชัย กล่าวว่า ซึ่งกรมมีแผนกระตุ้นค้าชายแดนต่อเนื่อง ที่ผ่านมาสร้างทั้งการค้าและร่วมลงทุน เช่น ตั้งโรงงานแปรรูปไม้ยางพารา ตั้งโรงงานผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะเข้าไปลงทุนผลิตไฟฟ้าในตะนาวศรี ฟิลิปปินส์สนใจมาตั้งโรงงานผลิตน้ำทุเรียนเทศ การผลิตเครื่องบรรจุภัณฑ์ การผลิต Solar Cell เป็นต้น

ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน