ภัยร้ายใกล้ตัว ′โรคเบาหวาน′

วันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปี ถือเป็น “วันเบาหวานโลก” โดยองค์การอนามัยโลกได้เปิดเผยผลสำรวจในปีที่ผ่านมา ากจำนวนประชากรทั่วโลกทั้งหมด มีผู้ใหญ่เป็นเบาหวานมากกว่า 422 ล้านคน นับเป็นสัดส่วนที่สูงมาก ซึ่งผลการศึกษาบ่งชี้ว่า การที่โลกมีประชากรผู้สูงวัยมากขึ้น และมีคนเป็นโรคอ้วนมากขึ้น ทำให้โรคเบาหวานกลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญที่สุดของโลก

ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา หัวหน้าคณะนักวิจัย Operation BIM (โอเปอเรชั่น บิม) นักวิทยาศาสตร์ไทยคนแรกผู้คิดค้นวิธีการสร้างภูมิคุ้มกันให้สมดุลจากสารสกัดธรรมชาติ กล่าวว่า อินซูลินเป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่ง มีหน้าที่พาน้ำตาลในเลือดไปป้อนเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย ทำให้น้ำตาลในเลือดลดลง ถ้าหากว่าร่างกายมีอินซูลินน้อยไป ตับอ่อนไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลินได้เพียงพอ จะทำให้มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง เกิดเป็นเบาหวานชนิดที่ 1 ได้

ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา
ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา

ทว่า หากร่างกายมีอินซูลินเพียงพอแล้ว แต่กลับมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน หมายความว่า อินซูลินไม่สามารถพาน้ำตาลไปป้อนเซลล์ต่างๆ ได้ จะทำให้เกิดเบาหวานประเภทที่ 2 ซึ่งโดยมากพบในผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน ลักษณะอาการที่พบบ่อยๆ ได้แก่ สายตาพร่ามัว เป็นแผลเรื้อรัง ปวดและชาตามมือและเท้า หรือปัสสาวะบ่อยครั้ง กระหายน้ำบ่อย และมีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานมาจากภาวะ “ภูมิคุ้มกันในร่างกายไม่สมดุล” กล่าวคือ ผู้ที่เป็นเบาหวาน ถือว่าเป็นอาการลักษณะหนึ่งของการแพ้ภูมิตัวเอง ซึ่งเกิดจากเม็ดเลือดขาวมีการหลั่งสาร TNF alpha, IFN- gamma และ IL17 มากเกินไป จนไปทำลายตับอ่อนทำให้หลั่งสารอินซูลินได้น้อยลง และส่งผลให้ร่างกายดื้อต่ออินซูลินในที่สุด

สำหรับการรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบัน สามารถรักษาอาการเบาหวานได้ด้วยยา แต่หากคุมด้วยยารับประทานแล้วไม่ได้ผล อาจต้องฉีดอินซูลินเข้าสู่ร่างกาย และอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลเบาหวาน

ศ.ดร.พิเชษฐ์ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า การตั้งเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก การหักห้ามใจตัวเองเลือกรับประทานอาหารไม่หวานจัด มันน้อย เค็มน้อย ออกกำลังกาย ประมาณ 40-60 นาที อย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ งดดื่มสุราและงดสูบบุหรี่ พร้อมจัดการความเครียดอย่างเหมาะสม ทำจิตให้สงบ มีสมาธิ เพียงเท่านี้ท่านก็จะห่างไกลจากโรคเบาหวานได้อย่างแน่นอน

อย่าลืมว่า ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ… เริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป


ที่มา : มติชนรายวัน
14 พ.ย. 2559