ที่มา | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เรื่องการนำ “กัญชา” มาใช้นั้น แปลกใจที่ทางการแพทย์ (ท่านอธิบดีกรม) กลับตีกรอบ โดยกำหนดให้ใช้ได้เพียง 3 ภาวะ ส่วนภาวะอื่นๆ ให้ทำวิจัย!!! เช่น สมองเสื่อม โรคลมชักในผู้ใหญ่ที่ยากต่อการควบคุม โรคพาร์กินสัน อาการวุ่นวายในคนไข้โรคสมอง เป็นต้น ซึ่งกระบวนการทำวิจัยในมนุษย์จะเป็นการยากมาก แม้แต่ในต่างประเทศก็ตาม ในการสรุปเนื่องจากกระบวนการของโรคและสาเหตุแตกต่างกัน แต่องค์การอนามัยโลกเองได้ชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ ทั้งนี้ เนื่องจากมีหลักฐานสนับสนุนในการบรรเทา หรือแม้ชะลอโรคได้ในสัตว์ทดลองหรือในกระบวนการในการเกิดพยาธิสภาพ
นอกจากนั้น สารสกัดกัญชา เช่น น้ำมันกัญชา ซึ่งมีอยู่แล้ว และราคาถูก แท้จริงแล้ว เมื่อรู้ระดับขนาดของสารออกฤทธิ์ (ซึ่งขณะนี้ทราบหมดแล้ว) ว่าควรใช้ปริมาณเท่าใดที่จะไม่มีผลข้างเคียง อันตราย หรือการติด และจะมีความปลอดภัยมากกว่า “ยาฝรั่ง” ที่ใช้กันขณะนี้ด้วยซ้ำ
โรคเหล่านี้รวมถึงภาวะการเจ็บป่วยจากความ
ผิดปกติของเส้นประสาทหรือเจ็บปวดจากสาเหตุอื่น เช่น มะเร็ง อาการแข็งเกร็งที่เกิดจากสมองผิดปกติในเด็กที่มีความพิการในสมอง ในผู้ใหญ่ที่มีโรคทางระบบประสาท แม้แต่ที่เกิดจากสมองหรือไขสันหลังผิดปกติ ควรเป็นอีกหลายภาวะ ซึ่งสามารถนำมา
ใช้ได้อย่างปลอดภัยพร้อมกับมีข้อมูลในมนุษย์อยู่พอสมควรแล้วด้วยซ้ำ
อีกประการหนึ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ เรื่องของคุณภาพชีวิตในผู้ป่วยเหล่านี้ซึ่งต้องทนทุกข์ทรมาน และแก้ไขหรือบรรเทาได้ลำบาก แม้แต่โรคมะเร็งก็จะสามารถอยู่ได้อย่างมีความสุขขึ้น
การที่นำกัญชามาใช้เพียงแค่ใช้ร่วมกับยาฝรั่ง และติดตามดูผลว่าภาวะนั้นๆ ดีขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ และจะทำให้สามารถลดยานั้นๆ ได้ และรวมทั้งมะเร็ง ก็สามารถติดตามขนาดและการกระจายได้
เพียงเท่านี้ก็เป็นการช่วยคนป่วยให้ได้ประโยชน์สูงสุดแล้ว