เผยแพร่ |
---|
“โอท็อปสงขลา” ลุยเปิดตลาดเชิงรุก-เชิงรับ ทั้งโรดโชว์-โอท็อปนวัตวิถี ตั้งเป้า ปี 2561 กวาดเม็ดเงิน 1,500 ล้านบาท พร้อมอัดเพิ่มผลิตภัณฑ์กว่า 1,000 รายการ
นายพงศ์สวัสดิ์ ยอดสุรางค์ ประธานคณะกรรมการกลุ่มเครือข่ายโอท็อปจังหวัดสงขลา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในปีนี้กลุ่มเครือข่ายโอท็อปจังหวัดสงขลาพยายามทำการตลาดทั้งในเชิงรุกและรับ เพื่อกระตุ้นยอดขาย โดยช่วงครึ่งแรก ปี 2561 ได้ทำตลาดโรดโชว์โอท็อปทั่วไทย 3 ครั้ง ครั้งแรกจัดที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ครั้งต่อมาจัดที่ห้างโรบินสัน จ.ตรัง และครั้งหลังสุดจัดที่ จ.กระบี่ โดยแต่ละครั้งจัดขึ้นรวม 10 วัน แต่ละพื้นที่มียอดขายสะพัด 60-70 ล้านบาท ถืออยู่ว่าในเกณฑ์ดี เทียบกับ ปี 2560 ยอดขายหดตัวประมาณ 10% ดังนั้น ในช่วงครึ่งหลัง ปี 2561 ได้เตรียมแผนจัดงานจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าโอท็อปใหญ่ที่สุดของภาคใต้ วันที่ 1-7 พ.ย. จ.ภูเก็ต ส่วนวันที่ 30 พ.ย.-9 ธ.ค. 61 งานส่งท้ายปีเก่า 2561 จัดขึ้นที่ อ.หาดใหญ่ โดยตั้งเป้าลูกค้าทั้งคนไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ให้ความนิยมผลิตภัณฑ์สินค้าโอท็อปมาก และภายในงานมีการเจรจาธุรกิจ ทั้งนี้มีสินค้าโอท็อปเข้าร่วมกว่า 500 บู๊ธ ตั้งเป้ายอดขายงานโรดโชว์ ปี 2561 ประมาณ 500 ล้านบาท
“สำหรับสถานการณ์การตลาดปีนี้ มูลค่ายอดขายลดลง แต่ผู้ประกอบการมีความเข้มแข็งและมีเสถียรภาพ โดยเฉพาะ จ.สงขลา เมื่อกรมการพัฒนาชุมชนมีนโยบายโอท็อปนวัตวิถี พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน พานักท่องเที่ยวเข้าไปซื้อสินค้าในชุมชน ถือเป็นนโยบายเชิงตั้งรับ เป็นการเพิ่มช่องทางการตลาด ลดต้นทุนการเดินทาง 30% รวมถึงมีปริมาณสินค้าโอท็อปเพิ่มขึ้น 390 รายการ จากเดิม 790 รายการ สำหรับการโรดโชว์โอท็อปทั่วไทย เป็นกลยุทธ์เชิงรุก ดังนั้น สินค้าโอท็อป จึงได้ช่องทางการตลาด ทั้ง 2 ช่องทาง รอบด้านเข้ามาส่งเสริมนับเป็นทิศทางที่ดีขึ้น สำหรับ จ.สงขลา มียอดจำหน่ายสินค้าโอท็อปถึง 1,500 ล้านบาท/ปี โดยบางปีมีรายได้บวก-ลบ อยู่ที่ประมาณ 10% โดยสินค้าขายดีเป็นโอท็อปสมุนไพร ยาสีฟัน สบู่ โลชั่น แชมพู ตลาดตอบรับอื้อ และกลุ่มอาหาร” นายพงศ์สวัสดิ์ กล่าว
นายพงศ์สวัสดิ์ กล่าวว่า ส่วนพื้นที่ภาคใต้ โครงการโอท็อปนวัตวิถีที่ประสบความสำเร็จแล้ว คือ จ.ตรัง และ จ.พัทลุง จากการไปดูงาน เพื่อนำมาเป็นต้นแบบในการพัฒนาดำเนินการที่ ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา ก่อน ซึ่ง ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา เป็นพื้นที่ที่มีความพร้อม มีทรัพยากรทางธรรมชาติ ทะเล สิ่งแวดล้อมที่สวยงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาขาดการพัฒนาบริหารจัดการ
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์